|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดขายตรงไตรมาส 2 ปีนี้ร้อนรับการเมืองเดือดและเศรษฐกิจชะลอ ค่ายยักษ์ใหญ่งัดสารพัดกิจกรรมรับศึก “นู สกิน” อัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเต็มสูบตลอด 3 เดือน และเตรียมเปิดตัวโครงการใหญ่แห่งปี นำเข้าเครื่องสแกนเนอร์รุ่น2 กว่า 100 เครื่อง หวังดันยอดขายQ2 โต 5-10% ส่วนกิฟฟารีนกังวลวันหยุดยาวและเลือกตั้งส.ว.ฉุดธุรกิจร่วง เดินหน้าอัดโปรโมชั่นหลังเปิดสงกรานต์ ภายใต้งบตลาดรวมปีนี้ 80 ล้านบาท ด้าน “แอมเวย์” ส่งอาร์ทิสทรี สปริง คอลเลคชั่นลุยหน้าร้อน คาดยอดขาย 25 ล้านบาท และยอดขายอาร์ทิสทรีทั้งปีนี้ตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท
สถานการณ์เมืองและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมในหลายธุรกิจ แต่ในส่วนของธุรกิจขายตรงกลับไม่ได้รับผลกระทบมากนักในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา หลายบริษัทมียอดรายได้เติบโตตามเป้าหรือเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตลาดขายตรงหลายชั้นอย่างแอมเวย์, กิฟฟารีนและนู สกิน
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงไตรมาส 2 นี้มีทีท่าว่าตลาดจะมีการแข่งขันกันสูงอยู่ไม่น้อย จากการเคลื่อนไหวของบริษัทรายใหญ่และค่ายเล็ก โดยเป้าหมายหลักของการทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าและหวังกระตุ้นกำลังซื้อจากผู้บริโภคที่มีทีท่าว่าชะตัวลงและมีความรอบคอบในการใช้จ่ายมากขึ้น อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเมืองที่ยังไม่นิ่งอยู่ในขณะนี้
นู สกินอัดกิจกรรมดันยอดQ2 โต 5-10%
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทนู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ถึงแผนการทำตลาดในช่วงไตรมาส 2 นี้ว่า นู สกินจะเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงมิถุนายน 2549 นี้ ภายใต้แนวคิดส่งเสริมเรื่องสุขภาพ
รวมถึงช่วงดังกล่าวจะมีการเปิดตัวโครงการใหญ่ของปีนี้ “สแกน ไทยแลนด์” ซึ่งจะมีการนำเข้าเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์รุ่นที่ 2 มาเปิดตัวกว่า 100 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีการทำอินเซนทีฟหรือการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้จำหน่ายอิสระในรูปแบบโปรแกรมใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้คาดว่ายอดขายของบริษัทฯในช่วงไตรมาส 2 จะมีอัตราการเติบโตได้ 5-10% ขณะที่ยอดรายได้ของนู สกินในช่วงไตรมาสแรกพบว่ามีการเติบโตเกินเป้าที่วางไว้หรือเติบโต 5% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่โตมาจากปัจจัยภายในบริษัทฯ เช่น แผนการตลาดและการเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นต้น
กิฟฟารีนหวั่นวันหยุด-เลือกตั้งส.ว.กระทบธุรกิจ
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมในช่วงไตรมาส 2 นี้มีความกังวลเรื่องที่มีวันหยุดยาวในเดือนเมษายนนี้ และการเลือกตั้งส.ว.หรือสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 19 เมษายนที่จะถึงนี้ รวมถึงเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งแผนรองรับของบริษัทฯจะมีการแผนทำโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายหลังจากช่วงสงกรานต์สิ้นสุดลง ภายใต้งบการตลาดรวมทั้งปี 80 ล้านบาท
สำหรับยอดรายได้ของกิฟฟารีนในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ามีการเติบโต 10.5% เป็นเพราะการมีสินค้าใหม่เปิดตัวกว่า 20 รายการในช่วงเดือนมีนาคม อาทิ เจลอาบน้ำ,แชมพู และยาสีฟัน ฯลฯ และการทำตลาดฉลองที่กิฟฟารีนครบรอบ 10 ปี ขณะที่ยอดรายได้รวมทั้งปี 2549นี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายจะโตขึ้น 10%
แอมเวย์อัดกิจกรรมต่อเนื่องฉลองปีที่ 20
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น “แอมเวย์” เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ของแอมเวย์จะยังคงใช้กลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่เน้นการทำตลาดและจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อฉลองที่ปีนี้แอมเวย์ย่างก้าวสู่ปีที่ 20 ขณะที่ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายดีและโตตามเป้า ถึงแม้ว่าไทยจะประสบปัญหาทั้งการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ตาม
ส่งสปริง คอลเลคชั่นลุยหน้าร้อน
ส่วนแผนการตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีในแต่ละปีบริษัทฯจะมีการเปิดตัวสินค้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี ล่าสุดในช่วงหน้าร้อนหรือซัมเมอร์ปีนี้ บริษัทฯได้เปิดตัวเครื่องสำอางอาร์ทิสทรีในกลุ่มสีสันใหม่ ภายใต้ชื่อ “สปริง คอลเลคชั่น 2006 ชุด แทร็งควิลิตี้ (Tranquility)” โดยได้ส่ง “อาย แอนด์ ชีค พาวเดอร์ ทินท์” ผลิตภัณฑ์เสริมแต่งความงามให้กับเปลือกตาและพวงแก้ม ซึ่งอยู่ในตลับเดียวกันมีให้เลือก 2 ชุด ในราคา1,450 บาท โดยเริ่มวางจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้แทร็งควิลิตี้ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อการแต่งแต้มริมฝีปาก “กลิสเทนนิ่ง ลิป คัลเลอร์” 2 เฉดสี ได้แก่ สีเบจและสีชมพูกลีบกุหลาบ โดยราคาสินค้าอยู่ที่ 595 บาท ปัจจุบันอาร์ทิสทรีมีสินค้าหลายกลุ่มและมีให้เลือกมากกว่า 200 รายการ ทั้งนี้คาดว่ายอดรายได้ของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะมีกว่า 25 ล้านบาท ขณะที่ยอดรายได้ของอาร์ทิสทรีสิ้นปีคาดว่าจะโตน้อยหรือยอดใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ 2,000 กว่าล้านบาท
|
|
|
|
|