Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 เมษายน 2549
ธอส.อัดออมสินกั๊กเงินกู้ทำสภาพคล่องหด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
Loan




ธอส.สภาพคล่องเริ่มฝืดหลังปล่อยกู้เพลินยอดทะลุเป้ากว่าหมื่นล้านทุกเดือน แผนระดมทุนเริ่มเป๋หลังแบงก์ออมสินแทงกั๊กให้โอ/ดี 1.2 หมื่นล้านจากที่เคยบอกจะให้ 3 หมื่นล้านอ้างขัดพ.ร.บ. ส่วนดอกเบี้ยยังตกลงไม่ได้ ขณะที่ขุนคลังไม่เห็นด้วยกับแผนซีเคียวรีไทเซชั่นห่วงเป็นหนี้ต่างประเทศมากเกินไป ระบุขณะนี้ทำได้อย่างเดียวคือชะลอปล่อยกู้

นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์เริ่มประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้ทะลุเป้าเดือนละกว่า 10,000 ล้านบาทมาโดยตลอดแต่แผนการระดมทุนของธนาคารยังประสบปัญหาทำให้เกิดความล่าช้าในการระดมทุนอย่างมาก

โดยธอส.ได้เปิดวงเงินกู้พิเศษ หรือ O/D ไว้กับธนาคารออมสิน จำนวน 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน แต่ธนาคารออมสินได้อ้างว่าพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ธนาคารออมสินได้กำหนดให้ปล่อยสินเชื่อได้ไม่เกิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถตกลงเรื่องอัตราดอกเบี้ยได้ ธอส.จึงได้เร่งหาแนวทางในการระดมทุนด้านอื่นเพิ่ม

นอกจากนี้ธอส.ยังได้ยื่นขออนุญาตกระทรวงการคลังเพื่อทำการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือ ซีเคียวรีไทเซชั่น วงเงิน 30,000 ล้านบาทเพื่อระดมทุน โดยแบ่งเป็นขายให้ต่างประเทศ(ออฟชอร์) จำนวน 20,000 ล้านบาท และขายภายในประเทศ(ออนชอร์) จำนวน 10,000 ล้านบาท แต่นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้เนื่องจากไม่อยากให้มีหนี้สินกับต่างประเทศมากเกินไป จึงได้ให้ธอส.กลับไปทบทวนโครงการใหม่

ทั้งนี้การเปิดวงเงินกู้พิเศษกับธนาคารออมสินในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่าธนาคารของรัฐด้วยกัน และถือเป็นครั้งแรกที่ธอส.กู้เงินจากธนาคารออมสิน การดำเนินการอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร ซึ่งถ้าหากมีปัญหาหรือติดขัดในจุดใดก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหาให้ตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย

"ผมเห็นว่าแนวทางเร่งด่วนที่ธอส.ต้องทำในตอนนี้คือชะลอการปล่อยสินเชื่อลงบ้าง ซึ่งเป็นหลักการปกติที่ต้องทำเมื่อเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในการปล่อยกู้ แต่ทั้งนี้ต้องมองดูภาพรวมทั้งหมดของธอส.ว่าทั้งปีตั้งเป้าปล่อยกู้ไว้ที่ 100,000 ล้านบาท ช่วงนี้กระแสเงินสดรับอาจจะยังไม่เป็นตามเป้า จึงทำให้มองเห็นว่าช่วงนี้เกิดปัญหาสภาพคล่องได้" นายไชยยศกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2548 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของธอส.มีจำนวนสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท เติบโตจาก 6 หมื่นล้าน นับจากปี 2545 ส่วนปี 2549 ธอส.ตั้งเป้าสินเชื่อไว้ที่ 100,000 ล้านบาท โดยการระดมทุนนอกจากแผนที่กล่าวมาข้างต้นและธนาคารยังมีแผนที่จะออกพันธบัตรนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2549 จำนวน 18,500 ล้านบาท ซึ่งได้ขออนุมัติจากกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว และธนาคารออมสินยังมีแผนที่จะระดมทุนด้วยการออกสลากออมสินให้กับธอส.อีกจำนวนหนึ่งแล้วแต่ความต้องการของธอส. นอกจากนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้เจรจากับสถาบันการเงินต่างประเทศ เพื่อขอกู้เงินในลักษณะเครดิตไลน์อีกจำนวน 10,000 ล้านบาท ที่เหลือจะใช้วิธีการซิเคียวริไทเซชั่นสินเชื่อกับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)

โดยก่อนหน้านี้นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธอส.กล่าวว่า แม้การระดมทุนจากแหล่งเงินทุนต่างๆ จะทำให้ธนาคารมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ถือว่าต่ำกว่าการระดมทุนด้วยเงินฝาก เพราะหากธนาคารต้องการระดมทุนด้วยการเงินฝากเพียงอย่างเดียว จะต้องมีต้นทุนจากการจัดตั้งสาขา พนักงาน และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งอาจกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยของลูกค้าได้

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นย่อมส่งผลกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะคิดกับลูกค้าอย่างแน่นอน แต่จะไม่เป็นส่วนที่ทำให้ธนาคารมีกำไรเพิ่มขึ้นได้มากนัก เพราะส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากของธนาคารก็ต้องลดลงตามไปด้วย แม้ว่าธนาคารจะต้องทำกำไร เพราะต้องเป็นไปตามระบบการประเมินผล แต่คงไม่ทำให้มีกำไรสูงจนเกินไป

ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาสภาพคล่องที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้านของธอส.เข้มงวดขึ้น อาจส่งผลให้ลูกค้าที่ยื่นกู้ในระยะนี้ได้รับการอนุมัติลดลงหรือมีการชะลอการอนุมัติสินเชื่ออกไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us