Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์10 เมษายน 2549
'เบลล่านีน่า' เฮ ! รับมือวิกฤติ ศก.บ.แม่จัดทีมขาย-ออกสินค้าใหม่             
 


   
search resources

Franchises
Cosmetics
พลอต แอนด์ แพลน, บจก.




วิภารดี ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการ บริษัท พลอต แอนด์ แพลน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดเครื่องสำอางค์มีการแข่งขันที่รุนแรงมากทั้งแบรนด์ที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศที่ขยายตลาดมายังไทย แต่อย่างไรก็ตามเครื่องสำอางผลิตจากสมุนไพรยังมีโอกาสการเติบโตอีกมากแต่ยอมรับว่าในระยะที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามนั้น ทำให้ยอดขายในกลุ่มเครื่องสำอางชะงักลงไปด้วย

และในปี 2549 นี้จึงได้รับกลยุทธ์ส่งเสริมยอดขาย เพื่อกระตุ้นการสร้างรายได้แก่แฟรนไชซีและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ล่าสุดได้เพิ่มไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์ "โอมายกอส" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นการป้องกัน ฟื้นฟูและบำรุง ขยายฐานลูกค้าสู่นักธุรกิจวันทำงาน ด้วยสีสันสดใสสีส้ม ที่ให้พลังกายใจและเริ่มต้นวันด้วยความสดใส ซึ่งมีส่วนประกอบด้วยสมุนไพร เช่น ไข่แดง ขิง มะละกอ ทองคำและชะเอม

"ผลิตภัณฑ์โอมายกอสนี้ ต้องการขยายฐานลูกค้าสู่นักธุรกิจ คนวัยทำงานมากขึ้น หลังจากก่อนนี้นี้ได้อกแบรนด์เบลล่า เบลล่าไปแล้วเพื่อจับตลาดล่าง เรามองว่าตลาดเครื่องสำอางโดยเฉพาะสมุนไพรไทยยังมีศักยภาพและการเติบโต เพียงแต่จะทำสินค้าเสนอกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างไร"

สินค้าภายใต้แบรนด์โอมายกอส ประกอบด้วย 1.Oh My God Soap 2.Oh My God Cream 3.Oh My God Boxiline 4.Oh My God Hair Tonic และ 5.Oh My God Montra Spray Mist คาดยอดขายในปี 2549 ไม่ต่ำกว่า 100-120 ล้านบาท ส่งผลต่อยอดขายรวมทั้งปี ที่ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 20% จาก 600 ล้านบาทในปีที่ผ่าน

วิภารดี กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ได้จัดทีมขายขึ้น 6 ทีม ทำตลาดทั่วประเทศเพื่อเจาะถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงที่ ตัวแทนจำหน่ายเจาะไม่ถึงเพื่อสนับสนุนฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นตั้งเป้าระยะเวลาทีมละ 1 เดือนในแต่ละพื้นที่ได้ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ราย บุกสาธิตการใช้สินค้าถึงบ้านคาดจะได้ฐานลูกค้ารวมทั้ง 6 ทีมไม่ต่ำกว่า 5,000ราย และหวังกลยุทธ์การบอกต่อ 1 รายเพิ่มขึ้นอีก 1 รายเป็น 10,000 ราย

"ที่ผ่านมาตัวแทนจำหน่ายยังมีช่องว่างที่เข้าไม่ถึงในบางพื้นที่ บริษัทแม่สนับสนุนการขยายฐานลูกค้าช่วยแฟรนไชซีและตัวแทนจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนวัยทำงานหรือกลุ่มลูก้าระดับกลางขึ้นมา ซึ่งจุดที่ทีมขายจะไปเจาะตลาดนี้โอกาสความสำเร็จมีสูงเพราะจะเน้นการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่ง"

นอกจากนี้ในปี 2549 ได้เริ่มปรับลดขนาดผลิตภัณฑ์ลง เพื่อสอดรับกับกำลังซื้อลูกค้าที่ลดลงให้สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าได้ตามปกติ ด้วยขนาดและราคาที่ลดลงกว่า 50% โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าขายดีและได้รับความนิยม เช่น ครีมมะขามป้อม และกระตุ้นการสร้างยอดขายในกลุ่มสินค้าระดับล่างภายใต้แบรนด์เบลล่า เบลล่าเพิ่มขึ้น

โดยในปีนี้ จะใช้งบการตลาดเพื่อส่งเสริมยอดขายของสินค้าบริษัทกว่า 30 ล้านบาท โดยในระยะ 3 จากนี้จะใช้งบสูงถึง 9 ล้านบาท กระตุ้นกำลังซื้อตั้งแต่ช่วงต้นปีและโปรโมทผลิตไม่โอมายกอสที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง นักธุรกิจ คนทำงานให้รับรู้ในวงกว้างผ่านสื่อทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์

วิภารดี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแฟรนไชซีปัจจุบันมีจำนวน 33 รายและตัวแทนจำหน่ายที่ซื้อสินค้าผ่านแฟรนไชซีอีกกว่า 400 ราย ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนแฟรนไชซีในปี 2549 อีกจำนวน 12 แห่ง ยังคงค่าแฟรนไชส์ฟี ที่ 120,000 บาท สัญญา 4 ปี จัดอบรมสมาชิกต่อเนื่อง

"ปัจจุบันรายได้แฟรนไชซีมาจากการจำหน่ายสินค้า 70% และบริการ 30% ในแต่ละปีบริษัท ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายของสินค้าและขยายฐานลูกค้า ซึ่งรายได้ที่แฟรนไชซีได้รับจากการจำหน่ายสินค้าด้วยส่วนลดถึง 50% เครดิต 1 เดือนส่วนตัวแทนจำหน่ายลดลงก็ลดลงมา

ที่ผ่านเราค่อนข้างพิจารณาแฟรนไชซีเพราะนอกจากขายสินค้าแล้วต้องดุแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นแตกละรายที่จะเป็นแฟรนไชซีต้องพิจารณาหลายอย่าง รวมถึงความจริงใจในการทำธุรกิจต้องเป็นตัวแทนจำหน่ายมาก่อน สำหรับรายใหม่ต้องพิจารณายอดขายก่อนเซ็นสัญญาแฟรนไชส์"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us