|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
น้ำดื่ม เป็นธุรกิจที่มีโอกาสที่ในการทำกำไรและเพิ่มอัตราการเติบโตที่สูง ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของเนสท์เล่ หันมาให้ความใส่ใจในการปรับปรุงกิจกรรมการดำเนินงานของธุรกิจนี้อย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะแบรนด์ 75 ยี่ห้อของกิจการที่มีท่าทีว่าจะเผชิญหน้ากับการแข่งขันอย่างรุนแรง
การปรับกิจกรรมทางการตลาดของเนสท์เล่ในธุรกิจด้านน้ำดื่ม เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง เพราะแบรนด์ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก จะทำอะไรให้ได้ผลดีเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ๆ เป็นไปได้ยาก ขณะที่มาตรการเดียวกันนี้ใช้ได้ผลดีอย่างเกินคาดหากว่าใช้กับแบรนด์น้ำดื่มบรรจุขวดชื่อดังอย่าง เปอริเยร์
สำหรับธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวดของเนสท์เล่นั้น ถือเป็นกิจการคู่แข่งที่สำคัญของกิจการน้ำดื่มบรรจุขวดรายใหญ่อย่างดานอนที่บริหารงานโดยกลุ่มกิจการเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่พิจารณาตามปริมาณเงิน
โดยเนสท์เล่มีสัดส่วนครองตลาดประมาณ 18.3% ของมูลค่าการค้าในตลาดโลกทั้งหมด ด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 8.6% ในปี 2005 ผ่านมา ซึ่งถือว่าไม่มาก เนื่องจากอัตราการเติบโตโดยรวมของตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด เกินกว่า 10% มาตลอด โดยเฉพาะในตลาดย่านอเมริกาเหนือ
แบรนด์ที่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างน่าพอใจให้กับเนสท์เล่ ได้แก่ แบรนด์ เพียวไลฟ์ ที่มีอัตราการเติบโตเกินกว่า 50% ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างของสินค้าที่เนสท์เล่วางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมและเอาจริงเอาจัง ทำให้สามารถรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวดไว้ได้อย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะในการขยายธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวดเข้าไปในตลาดแคนาดา ที่ได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มมากว่า 70% ในช่วงระยะเวลาเพียง 6 เดือนที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวดของเนสท์เล่ในตลาดยุโรปยังคงมีอัตราคงที่ในปี 2005 สะท้อนภาพของภาวะตลาดที่อิ่มตัวกว่าตลาดในภูมิภาคอื่นๆ
การที่เนสท์เล่หันมาให้ความพยายามและทุ่มเททรัพยากรเพื่อขยายอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์น้ำดื่มบรรจุขวดเพียงบางยี่ห้อที่เป็นแบรนด์หลัก แทนที่จะให้ความสำคัญกับทุกแบรนด์ในอัตราที่เท่ากัน ก็น่าจะถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนต่อความสำเร็จในการเพิ่มยอดการจำหน่ายได้ตามเป้าหมายของกิจการในระยะที่ผ่านมาด้วย
ที่จริง ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสทางการลาดที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากเดิมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มของลูกค้าที่เปลี่ยนจากกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม และเครื่องดื่มประเภทที่มีโซดา มาเป็นเครื่องดื่มประเภทน้ำดื่มเปล่า หรือผสมวิตามิน และสารให้ประโยชน์บางอย่าง ตลอดจนน้ำผลไม้แท้ 100% มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อผลทางด้านสุขภาพและการประหยัดเงิน หลังจากที่ราคาเครื่องดื่มประเภทอัดลมและเติมโซดา เพิ่มสูงขึ้นมาตามลำดับ
นักการตลาดในแวดวงเครื่องดื่มยังประมาณการด้วยว่า ปริมาณความต้องการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวด และน้ำผลไม้ จะมากกว่าและทำท่าว่าแซงหน้าเครื่องดื่มประเภทโซดาและคาบอร์เนตอย่างถาวรในเวลาไม่เกิน 5 ปีที่จะถึงนี้ด้วย
ปัจจุบัน ผู้นำในตลาดน้ำดื่ม อย่างบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า และโคคา-โคล่า และผู้ผลิตรายย่อยมีจำนวนเพิ่มขึ้น และล้วนเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ล้วนแต่ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดของเนสท์เล่ยุ่งยากมากขึ้น
คู่แข่งที่เป็นหน้าใหม่ที่น่ากลัว อย่างน้ำดื่มไฮแลนด์ สปริง ของสก๊อตแลนด์ มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับ 2 ของตลาดอย่างอังกฤษ ที่มีอัตราการเติบโตทางการตลาดสูง หลังจากที่สามารถสร้างยอดการจำหน่ายทะลุไปกว่า 30% จากปีก่อน
ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด ที่จะสามารถสร้างอัตราการเติบโตไปในอนาคต จะต้องมีความแตกต่างและความพิเศษจากตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดปกติที่เป็นรูปแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะกลุ่มน้ำดื่มบรรจุขวดที่เรียกว่า “Functional Water” ที่ทยอยเปิดตัวไปหลายยี่ห้อแล้ว และพบว่าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคสูง เนื่องจากอรรถประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
อย่างเช่น น้ำดื่มบรรจุขวดฟังก์ชันนอลในแบรนด์เบเนโอ ของโอราฟติ ที่มีอินซูลีนและโอลิโกฟุกโตส เป็นส่วนผสมเพิ่มเติม ที่จะสร้างแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
ดังนั้น การขยายตลาดของน้ำดื่มบรรจุขวดที่เป็นกลุ่มเพิ่มเติมสารให้ประโยชน์ หรือแนวทางของน้ำดื่มบรรจุขวดที่มีนวัตกรรม จึงน่าจะเป็นแนวทางที่เวิร์กที่สุดในขณะนี้ที่จะสามารถสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ในระยะอันสั้น จากสัดส่วนแบ่งทางการตลาดที่ยังต่ำกว่า 5% อยู่ในขณะนี้ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโอกาสทางการตลาดที่เปิดกว้างอยู่ในปัจจุบัน
นักการตลาดส่วนหนึ่งกลับมองคล้ายๆ กับผู้บริหารของเนสท์เล่ นั่นคือ การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ฟังก์ชั่นนอล วอเตอร์ เป็นการมุ่งตลาดระดับนิช มาร์เก็ต ที่แคบเกินไป ที่จะสร้างอัตราการเติบโตและธำรงรักษาไว้ในอัตราที่สูงได้อย่างที่ผุ้บริหารของเนสท์เล่ต้องการ
นั่นทำให้ เนสท์เล่ยังคงยึดเอาความหมายและรูปแบบของน้ำดื่มบรรจุขวด เพื่อรองรับความต้องการของตลาดระดับกว้าง ที่เน้นความเป็นน้ำดื่มที่สะอาด บริสุทธิ์ปราศจากรสชาติใดๆ มากกว่า เพราะนอกจากจะเจาะตลาดได้วงกว้างแล้ว ยังสามารถจำหน่ายน้ำดื่มบรรจุขวดได้ด้วยราคาต่ำ จึงเข้าถึงมวลชนในวงกว้าง และอาศัยการจำหน่ายในปริมาณมากเพื่อเป็นช่องทางการทำกำไร อย่างเช่นแบรนด์ วีร่าในตลาดอิตาลี และอะควาเรล ที่จำหน่ายในภาคพื้นยุโรป
|
|
|
|
|