|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“เอ็น.ซี. เฮ้าซิ่ง” ปั้นแบรนด์โฮม ออน กรีน ลุยบ้านริมสนามกอล์ฟเจาะลูกค้าระดับกลาง-บน เล็งเจรจาเจ้าของสนามกอล์ฟเข้าบริหารโครงการให้หรือซื้อที่ดินพัฒนาเอง หลังประสบความสำเร็จจากการบริหารที่ดินรอบสนามกอล์ฟธัญธานี พร้อมซื้อที่ดินเพิ่มอีก 390 ไร่ มูลค่า 550 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ โฮม ออน กรีน 2 ธัญธานี มูลค่า 2,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง
นายสุนทร จันทรานุสนธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยริมสนามกอล์ฟ โดยจะใช้แบรนด์ โฮม ออนกรีนในการพัฒนา หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเข้าไปบริหารโครงการธัญธานี โฮม ออน กรีน บ้านเดี่ยวริมสนามกอล์ฟให้กับสนามกอล์ฟธัญธานี จึงได้ซื้อที่ดินในโครงการดังกล่าวเพิ่มอีก 390 ไร่ มูลค่า 550 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการ โฮม ออน กรีน 2 ธัญธานี มูลค่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวริมสนามกอล์ฟเหมือนโครงการแรก จำนวน 246 หลัง เนื้อที่โครงการ 122 ไร่ แต่ได้ลดขนาดที่ดินให้เล็กลง เพื่อขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับกลางจากเดิมที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 4.9 ล้านบาท และมีราคาขายเฉลี่ยที่ 6.4 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้สำรวจความต้องการซื้อบ้านในสนามกอล์ฟแล้วพบว่า ลูกค้าระดับกลางก็มีความต้องการซื้อบ้านริมสนามกอล์ฟอยู่จำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาบ้านสนามกอล์ฟจะเน้นบ้านระดับบน ประกอบกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันจึงต้องปรับสินค้าให้สอดคล้องกับตลาด
สำหรับการพัฒนาบ้านริมสนามกอล์ฟจะเป็นอีกเซกเมนต์หนึ่งที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากเห็นว่า ยังมีความต้องการความต้องการบ้านที่ตั้งอยู่ริมสนามกอล์ฟอยู่ ประกอบกับมีผู้นิยมเล่นกีฬากอล์ฟจำนวนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่เข้าไปจับกลุ่มผู้นิยมเล่นกอล์ฟโดยตรง แต่จะจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปที่ต้องการซื้อบ้านที่มีบรรยากาศเป็นธรรมชาติริมสนามกอล์ฟเป็นหลัก ซึ่งนอกจากโครงการบ้านเดี่ยวที่พัฒนาในสนามกอล์ฟธัญธานีแล้ว บริษัทอยู่ระหว่างการหาสนามกอล์ฟในทำเลใหม่ๆ เพื่อเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยรอบ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบริเวณรอบสนามกอล์ฟที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟมักจะจัดสรรที่ดินขายและให้ผู้ซื้อไปสร้างบ้านเอง ปัญหาที่ตามมาคือ ผู้ซื้อยังไม่ยอมสร้างบ้านทำให้ไม่เกิดชุมชนทำให้ไม่น่าอยู่อาศัย ประกอบกับผู้ประกอบการสนามกอล์ฟบางรายก็อาจจะไม่มีประสบการในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริษัทจึงจะใช้วิธีการเข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ เพื่อเข้าไปบริหารโครงการให้หรือการเข้าไปซื้อที่ดินของสนามกอล์ฟและลงทุนพัฒนาเองเหมือนที่ได้ทำที่สนามกอล์ฟธัญธานี
“ในปีนี้บริษัทคงจะยังไม่ได้เข้าไปพัฒนาโครงการบ้านริมสนามกอล์ฟให้กับโครงการอื่นๆเพราะเพิ่งเปิดโครงการใหม่ที่สนามกอล์ฟธัญธานี และยังมีที่ดินในส่วนที่เหลือที่จะต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการในอนาคตต่อไป แต่ได้เริ่มเข้าไปสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในสนามกอล์ฟอื่นๆ บางแล้ว และน่าจะเริ่มขยายการลงทุนได้ในปีต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังได้ออกสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด โดยมีแผนจะลงทุนเพิ่มที่พัทยา และเชียงใหม่ ที่บริษัทมีการพัฒนาโครงการอยู่แล้วก่อนหน้านี้”นายสุนทรกล่าว
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง กล่าวถึงแผนธุรกิจในปีนี้ จะมีการลงทุนโครงการใหม่ประมาณ 4-5 โครงการ มูลค่าขายประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอีก 9 โครงการ ตั้งเป้าการขายประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกมียอดขายแล้วประมาณ 600 ล้านบาท ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับโครงการโฮม ออน กรีน 2 ธัญธานี เป็นโครงการแรกที่เริ่มดำเนิน ส่วนโครงการอื่นๆ จะยังคงอยู่ในพื้นที่รังสิต-ลำลูกกาเป็นส่วนใหญ่
|
|
|
|
|