ผู้จัดการกองทุนมั่นใจธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลอนาคตสดใส ท่ามกลางมรสุมการเมือง-เศรษฐกิจ บีบนักลงทุนรายใหญ่ ลูกค้าสถาบันหันมาลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น “พรีมาเวสท์”ตั้งเป้าบริหารพอร์ต 500 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่พอร์ตกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบเดือนก.พ.วูบกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ค่ายกสิกรไทยนำโด่งลดลงกว่า 8 พันล้านบาท ขณะที่ค่ายเอเจเอฟวูบกว่า 3.3 พันล้านบาท
ภาพรวมธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลในปีนี้ ท่ามกลางปัญหาการเมือง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนแม้จะผ่านพ้นการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา แต่กระแสการเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจุดนี้ได้ฉุดความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุนทั้งในตลาดทุนและตลาดเงิน และสถานการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะมีความยืดเยื้อ ส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันหันมาลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น
สำหรับพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลในปี 2548 บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 142,546.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2547 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 134,090.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,456.39 ล้านบาท หรือ 6.30%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมกราคม 2549 พอร์ตกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 143,656.44 ล้านบาท ก่อนที่จะปรับตัวลดลงเหลือเพียง 132,650.34 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือปรับตัวลดลงกว่า 11,0065.10 ล้านบาท หรือลดลง 7.66%
สำหรับบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่พอร์ตกองทุนส่วนบุคคลปรับตัวลดลงประกอบด้วย บลจ.กสิกรไทย บลจ.ทิสโก้ บลจ.เอ็มเอฟซี บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) บลจ.อยุธยาเจเอฟ บลจ.แอสเซท พลัส บลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.ยุโอบี (ไทย) บล.กรุงศรีอยุธยา บลจ.บีที ธนาคารทหารไทย และบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลในปีนี้คาดว่าจะยังมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่งในขณะนี้ ส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่ ลูกค้าสถาบันหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน เนื่องจากการลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลพอร์ต และติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการลงทุนให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
“สภาวะที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้ธุรกิจยังมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง”
สำหรับบลจ.พรีมาเวสท์ในปีนี้ตั้งเป้าบริหารพอร์ตกองทุนส่วนบุคคลประมาณ 400-500 ล้านบาท จากปัจจุบันมีพอร์ตภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้นเป็น 200 กว่าล้านบาท จากการเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังได้รับใบอนุญาตการทำธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
กรรมการผู้จัดการ บลจ.พรีมาเวสท์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมการแข่งขันธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลยังไม่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่มีการลดค่าธรรมเนียมให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) แต่ในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลลูกค้าส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในการลงทุน ส่งผลให้เรื่องค่าฟีเป็นเพียงองค์ประกอบเท่านั้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ประเมินถึงความเสี่ยงการลงทุน และผลตอบแทนการลงทุนที่คาดหวังในอนาคต
|