|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2549 นอกเหนือจากปัจจัยทางด้านราคาน้ำมัน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งในเรื่องของต้นทุนในการก่อสร้างบ้านและต่อสินค้าประเภทอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง ขณะที่ต้นทุนทางการเงินอาจจะต้องขยับตามการประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ส่วนของผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยหันมาดูที่ความสามารถในการผ่อนชำระระยะยาวอย่างมั่นคง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับแนวมาพัฒนาบ้านขนาดที่เหมาะสมกำลังซื้อที่แท้จริง ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น อย่างไรก็ดี การที่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาสอดแทรกตั้งแต่ต้นปี 2549 และต่อเนื่องถึงเดือนเม.ย. กลายเป็นฉนวนที่กระทบต่อภาคธุรกิจและมีผลในเชิงจิตวิทยาของลูกค้าในการตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยในระดับที่มากพอสมควร
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงปัจจัยทางการเมืองต่อทิศทางอสังหาริมทรัพย์ว่า โดยภาพรวมแล้วสถานการณ์ตลาดอสังหาฯน่าจะทรงตัว เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองดีขึ้น แต่ก็ต้องมาดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรมากระทบอีก มีความเป็นไปได้ที่ตลาดอสังหาฯปีนี้จะมีอัตราเติบโตประมาณ 5-10% ได้
" เราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และถ้ามีอะไรอึมครึมอีกหรือมีเหตุการณ์เข้ามาอีก ก็น่าจะทำให้ตลาดอสังหาฯอยู่ในภาวะทรงตัวต่อไป แต่คงไม่ถึงขั้นทรุดลง เพราะว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังมีอยู่เยอะ "นายสมเชาว์กล่าว
สำหรับการเตรียมรับมือของผู้ประกอบการต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับภาพรวมเศรษฐกิจนั้น นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า ทุกคนต้องมีการวางแผนอยู่แล้ว และเชื่อว่าส่วนใหญ่จะระมัดระวังในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ชะลอการซื้อที่ดินมาพัฒนา ขณะที่ส่วนที่นักพัฒนาที่อยู่ได้ลงทุนไปแล้ว ก็คงต้องเดินหน้าสานต่อให้เสร็จ เพียงแต่ต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถดึงลูกค้ามาซื้อสินค้าของผู้พัฒนาให้ได้
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ 3 สมาคมอสังหาฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการกระตุ้นอสังหาฯ โดยการจัดมหกรรมที่อยู่อาศัยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงกลางปีและช่วงปลายปี จากเดิมที่จะปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะมีส่วนส่งเสริมให้สมาชิกของแต่ละสมาคม สามารถกำหนดกลยุทธ์เพื่อผลักดันยอดขายออกมาได้
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่าการประกาศเว้นวรรคทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นยอมรับได้ พิจารณาได้จากราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้สะท้อนออกมาในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอาจจะชะลอการตัดสินใจออกไป แต่มิได้หมายความว่าลูกค้าเหล่านี้จะไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอีก เนื่องจากต้องการรอประเมินเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
" ลูกค้ามีเงินอยู่ในกระเป๋า เพียงแต่จะซื้อบ้านก็ต่อเมื่อสบายใจขึ้นมา และคิดว่าในไตรมาส 2 ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะดีขึ้น และที่มีการพูดว่าตลาดอสังหาฯไตรมาสแรกชะลอไปนั้น ควรมองเป็นรายตลาด บางตลาดยังมียอดขายที่ดี บางตลาดแย่น้อยเช่น บ้านหรูชะลอตัวลง แต่ก็แน่นอนถ้ามองเป็นภาพรวมชะลอตัวตามสภาพที่เกิดขึ้น "นายอธิปกล่าว และย้ำว่า
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งปี 49 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับ 5-10% โดยความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยตามที่ได้มีการคาดการณ์ทั้งปีน่าจะอยู่ที่กว่า 70,000 หน่วย ขณะที่ปริมาณซัปพลายที่ออกสู่ตลาดเริ่มมีสัดส่วนที่ไม่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการที่เข้าสู่ตลาดไม่เยอะ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อโครงการ
"อัตราเติบโตที่ 5-10% สมาคมฯได้นำปัจจัยลบทั้งหมดมาประมวลและวิเคราะห์ถึงผลกระทบ ส่วนตลาดจะหดตัวไปมากกว่านี้หรือไม่ คงต้องรอดูว่ามีอะไรเข้ามากระทบอีก "
นายสุรินทร์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.แอล.เอสเตท จำกัด ผู้ดำเนินโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์ “ราชาวดี” กล่าวยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองไทยขณะนี้ มีผลกระทบในเชิงจิตวิทยาของกลุ่มผู้บริโภคบ้างในแง่ของการตัดสินใจซื้อบ้าน และมีผลต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินไม่น้อย โดยจะเห็นได้จากระยะหลังนี้ สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มชะลอและมีการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติละเอียดมากขึ้น ทำให้บรรยากาศของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 3 เดือนแรกของของปีนี้ไม่ค่อยคึกคัก โดยพบว่ากลุ่มผู้ประกอบที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการหลายรายมีการชะลอลงทุนไปอีก หรือบางรายที่ได้ลงทุนเปิดตัวโครงการไปแล้วได้ชะลอกิจกรรมทางการตลาด แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้บรรยากาศการแข่งขันของธุรกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง และคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ประกอบการจำนวนมากกลับมาทุ่มทำการตลาดกันอีกครั้ง หลังเดือนเมษายนและต้นพฤษภาคมนี้
|
|
|
|
|