|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยพาณิชย์ ไม่หวั่นการเมือง ยืนยันเดินหน้าบริหารธุรกิจตามเป้าและเป้าหมายเดิม มั่นใจปีนี้ลดเอ็นพีแอลเหลือ 7 % พร้อมขออนุมัติผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผล 3 บาทต่อหุ้นฉลองแบงก์ครบ 100 ปี ออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 แสนล้านบาท เรียกร้อยยุติปัญหาขัดแย้งทางการเมืองโดยเร็ว
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่มีการเลือกตั้งจบสิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาและหารือกันในทุกๆฝ่าย ซึ่งเชื่อว่านักธุรกิจหรือทุกฝ่ายไม่ต้องการให้ปัญหาต่างๆยื้ดเยื้อ เพราะขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจ โยรวมของประเทศ มีแนวฏน้มที่ดี มีอัตราการเติบโตของจีดีพีอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นภาคการท่องเที่ยว อาจจะชะลอตัวไปบ้าง เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น
ด้านภาคการเงิน ธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ยังคงเดินหน้าตามปกติ โยเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงดำเนินการไปตามแผนและเป้าหมายเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งในส่วนของโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ล่าช้าออกไปจากปัญหาการเมือง ไม่ได้มีปัญหาต่อแผนการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าธนาคารมีเป้าหมายที่จะร่วมปล่อยกู้ในโครงการเมกะโปรเจกต์ เพราะ ธนาคารเองคงจะไม่มีบทบาทไปเร่งรัดโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐ
ด้านคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้น่าจะส่งผลกระทบในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี หากยังมีความยืดเยื้อ โดยจะต้องมาพิจารณาว่าผลที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อส่วนใดมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ในส่วนของธนาคารก็มีการการพิจารณาข้อมูลทางเศรษฐกิจทั้งจากภายในองก์กรและข้อมูลของสำนักวิเคาระห์อื่นๆอยู่เป็นประจำทุกๆๆเดือน ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีผลกับเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง ส่งผลให้การทำธุรกิจตอนนี้อยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร นั้นมองว่าไม่น่าจะปรับเพิ่มมาก ซึ่งดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่ม ขึ้นถือว่ายังไม่สูงมากเกินเหตุจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่ถ้าหากอัตราดอกเบี้ย MRR หรือ MLR ปรับสูงอยู่ที่ระดับเลข 2 หลัก ก็น่าจะส่งผลให้ธุรกิจเกิดการชะลอตัวรุนแรงได้ นอกจากนี้ด้านเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับที่สูงในช่วงที่ผ่านมาจากเรื่องของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาพวะเงินเฟ้อครึ่งปีหลังน่าจะลดลงเนื่อจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปีนี้ยังน้อยกว่าไตรมาที่ 3 ของปี 2548
ด้านสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) และสินทรัพย์รอการขาย ( NPA) ของธนาคารขณะนี้มีอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็น NPL โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะสามารถลดหนี้ส่วนหนี้ต่ำกว่า 7% โดยจะมาจากการขายและการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งทั้งนี้จะพิจารณาว่าการขายหรือให้บริษัทตัวแทนขายอย่างไหนดีกว่ากัน ทั้งนี้ในช่วงมากราคมที่ผ่านมาธนาคารได้มีการขาย NPL ไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ในการประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 3 บาท ประกอบด้วยเงินปันผลปกติหุ้นละ 2 บาท และเงินปันผลพิเศษหุ้นละ 1 บาท ในวาระที่ธนาคารจะดำเนินการครบ 100 ปี ในเดือนมกราคม 2550 พร้อมอนุมัติให้จัดสรรเงินรางวัลในอัตรา 0.5 % ของเงินปันผลให้แก่กรรมการ เนื่องจากเห็นว่า กรรมการธนาคารมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลการดำเนินการของธนาคาร จนทำให้มีกำไรสุทธิ 18,883 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
รวมทั้งเห็นชอบกับข้อเสนอของฝ่ายจัดการที่ให้ออกหุ้นกู้หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ หรือหุ้นกู้ระยะสั้นในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการกำหนดรายละเอียดในการดำเนินการ เช่น อัตราดอกเบี้ย ราคาเสนอขาย สิทธิในการไถ่ถอน เสนอขายนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง และผู้ลงทุนสถาบัน หรือประชาชนทั่วไป ซึ่งเงินที่ธนาคารจะได้จากการออกหุ้นกู้ ก็เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของธนาคาร ในระยะต่อไป และมีการอนุมัติจ่ายปันผล
|
|
|
|
|