บลจ.บัวหลวงโชว์บริหาร "บัวหลวงธนทวี" ครบ 1 ปีให้ผลตอบแทนแล้ว 2.66% "วรวรรณ" ชูจุดเด่น เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ให้โอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และไถ่ถอนได้ทุกวันทำการโดยไม่ต้องถือกองทุนนานเป็นเดือนเป็นปี พร้อมเดินหน้าลุยต่อ คลอด "บัวหลวงธนรัฐ 6/49" ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 เดือน ผลตอบแทน 4.10% ต่อปี เปิดขายถึง 10 เมษายนนี้

นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการออกกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ. บัวหลวง โดยในช่วงที่ผ่านมานั้นกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนสุทธิย้อนหลั 3 เดือนอยู่ที่ 3.41% ต่อปี ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.00% ต่อปีและ 1 ปีให้ผลตอบแทนที่ 2.66% ต่อปี

“ลูกค้าที่ลงทุนในธนทวีส่วนใหญ่จะเป็นผู้ลงทุนที่มีเงินก้อนที่ไม่ต้องการล็อคเงินนานเป็นเดือนเป็นปีเพราะเกรงว่าหากดอกเบี้ยขึ้นจะเสียโอกาสเพราะว่าเงินถูกล็อคในอัตราที่ตายตัวไปแล้ว รวมถึงผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูงและไถ่ถอนได้ตลอดเวลา ซึ่งต้องการได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเอาไปฝากออมทรัพย์หรือเอาไว้ในบัญชีกระแสรายวัน ส่วนใหญ่ข้อนี้จะเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัทห้างร้านต่างๆ หรือเป็นเงินที่ลูกค้ารายย่อยที่ลงทุนในหุ้น ทำการขายหุ้นมาพักไว้ก่อนเพราะไม่แน่ใจในภาวะตลาดหุ้น หรือเป็นเงินของลูกค้าทั่วๆไปที่ต้องเบิกออกมาใช้สอยตลอดเวล จึงไม่สามารถฝากประจำหรือลงทุนแบบมีกำหนดเวลาตายตัวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนทั้งสองประเภทจะมีลักษณะความต้องการร่วมกันคือ ต้องเป็นการลงทุนที่ให้ความมั่นคงสูงและโอกาสได้รับอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าทางเลือกอื่นที่ใกล้เคียงกัน”นางวรวรรณกล่าว

สำหรับนโยบายการลงทุนของธนทวีนั้นจะเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของสิ่งที่กองทุนไปลงทุนมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ของคู่แข่งที่คล้ายๆกัน โดยกองทุนรวมธนทวีมีการลงทุนในตราสารหนี้ที่ภาครัฐเป็นผู้ออกตราสาร หรือที่รัฐคุ้มครองทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย ลงทุนในเงินฝากและตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงินซึ่งได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวนจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และสำหรับส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนนั้นจะ ไม่ ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับ A- หรือเทียบเท่า

ทั้งนี้ ณ วันที่ 28 มีนาคม 2549 พอร์ตการลงทุนของธนทวีก็มีการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นๆไม่ถึง 3 เดือนจำนวนมากถึง 69.01% เงินส่วนนี้เมื่อครบกำหนดอายุตราสารที่ลงทุนได้รับเงินคืนก็สามารถเอาไปลงทุนในตราสารตัวใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยใหม่ตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้นได้ จึงเป็นการลงทุนที่ไม่เสียโอกาสในการถูกล็อคเงินไว้ในอัตราคงที่เป็นเวลานานๆ และยังมีความมั่นคงปลอดภัยสูงมาก โดยดูได้จากพอร์ตการลงทุนที่มีการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือที่รัฐและกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินคุ้มครองเต็มจำนวนถึง 79.35% ส่วนที่เหลือ18.87% เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้นที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงในระดับ T1+ (เทียบเท่ากับ AAA) 2.04% ระดับความน่าเชื่อถือ T1 (เทียบเท่ากับ A+ถึง A-) 5.24% และระดับความน่าเชื่อถือ A- 11.59%

นางวรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา บลจ. บัวหลวงได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกสำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 6/49 ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยกองทุนดังกล่าวอายุประมาณ 5 เดือน ซึ่งหากกองทุนครบอายุกองทุนผู้ลงทุนก็จะได้รับเงินลงทุนและเงินจ่ายคืนอัตโนมัติคืนทั้งหมด โดยหากคำนวณจากผลตอบแทนของตั๋วเงินคลัง ที่กองทุนลงทุน (TB06816A) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 4.30 ต่อปี ดังนั้น กองทุนจะสามารถจ่ายเงินคืนอัตโนมัติเท่ากับ 4.10% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก และสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาก็จะไม่เสียภาษีแต่ประการใด หากจะเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำจะคำนวณได้ที่ 4.82% ต่อปี ทั้งนี้ กองทุนรวมบัวหลงธนรัฐ 6/49 จะเปิดขายไปถึงวันที่ 10 เมษายนนี้