Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539
"ญาณเดช ทองสิมา ถึงกลับมาแต่ก็ไม่พ้นต้องเล่นการเมือง"             
 


   
search resources

ญาณเดช ทองสิมา
Real Estate
ทองสิมา เคหะกิจ.,บจก




ในวัย 48 ปี วันนี้ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัททองสิมา เคหะกิจ จำกัด อดีตนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรคนแรกของเมืองไทยเมื่อปี 2523 และนักพัฒนาที่ดินเก่าแก่ในย่านบางขุนเทียนได้หวนคืนสู่สนามการค้าขายโครงการที่อยู่อาศัยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากหายเงียบไปนาน

การกลับมาครั้งนี้ของเขา ได้วางโครงการที่จะพัฒนาที่ดินไว้ 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ โครงการโรงแรม บ้านจัดสรร อพาร์ทเม้นท์ และโครงการมหาวิทยาลัย โดยในปี 2539 นี้ จะทยอยเปิดพร้อม ๆ กัน 4 โครงการ เริ่มตั้งแต่เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เปิดโครงการ "บ้านเจริญสุข" บนถนนประชาอุทิศ ในพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ เป็นโครงการบ้านและที่ดินจัดสรร 150 แปลง วันที่ 12 สิงหาคมที่จะถึงนี้จะเปิดโครงการ "บ้านทองอุไร" บนถนนจุลพงษ์ จัดสรร ซึ่งแยกจากถนนบางขุนเทียน-ทะเลเข้าไป ในเนื้อที่ 25 ไร่ เป็นบ้านแฝดประมาณ 150 หลัง

ส่วนในช่วงปลายปีนี้เปิด 2 โครงการพร้อมกันคือ บ้านราชมนตรีในเนื้อที่ 25 ไร่ บนถนนหรรษาพัฒนา ย่านบางขุนเทียน เป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 300 ยูนิต และโครงการรีสอร์ท "ไร่วนกาญ" ซึ่งโครงการนี้เดิมก็คือ ไร่วโณทยาน รีสอร์ทเก่าแก่ในจังหวัดกาญจนบุรีที่เคยมีชื่อเสียงมากในยุคหนึ่ง ปัจจุบันทางเจ้าของเก่าได้ขายไป และทางญาณเดชได้เข้าไปเช่าที่ดินในระยะเวลา 30 ปี เพื่อปรับปรุงใหม่เป็นรีสอร์ทอย่างดี จำนวน 250 ห้อง โดยพุ่งเป้าไปยังตลาดสัมมนา

ส่วนในปีหน้า ระหว่างที่พัฒนาโครงการของปีนี้ ก็จะเปิดโครงการมหาวิทยาลัยที่มหาชัยในเนื้อที่ 500 ไร่ในโครงการมีทั้งสถานศึกษาและที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับคนย่านมหาชัยที่มีมากมาย และอีกโครงการหนึ่งคืออพาร์ทเม้นท์ซึ่งจะทยอยสร้างกระจัดกระจายในทำเลต่าง ๆ ย่านฝั่งธนฯ อีกประมาณ 8 จุด

นอกจากนั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ บนถนนพระราม 2 บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาได้มาเช่าที่ดินของญาณเดชไปอีก 100 ไร่ ซึ่งทำให้เขาเหลือที่รอบ ๆ บริเวณนั้นอยู่อีกจำนวนหนึ่งซึ่งสามารถรอเวลาเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน

การกลับมาของเขาในคราวนี้เขาได้วางแผนไว้ค่อนข้างชัดเจนในการทำธุรกิจในที่ดินซึ่งมีอยู่มากมาย ไม่ว่าพัฒนาเองในชื่อของบริษัทต่าง ๆ หรือการเข้าไปร่วมทุนในนามของบริษัทของตระกูลคือ ทองสิมาเคหะกิจ

ก่อนหน้านั้นนอกจากเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการย่านบางขุนเทียนที่เป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว ยังเป็นอาจารย์หนวดงามประจำคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นอาจารย์ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรอีกด้วย

ญาณเดชผละจากยุคทองในการทำโครงการบ้านจัดสรร และกระโดดไปเล่นการเมืองอย่างเต็มตัวในนามของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2528 รับตำแหน่งสมาชิกสภา กทม. เมื่อปี 2528-2532 และรับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2535-2538 และช่วงเวลาที่เขาทุ่มเทให้กับงานการเมืองอย่างเต็มที่นี้คือช่วงที่เขาหายเงียบไปจากวงการบ้านจัดสรร แต่ได้กลับมาทำโครงการอยู่บ้างเมื่อปี 2533 คือโครงการมณฑลวิลล์ บนถนนพุทธมณฑลสาย 2

สถานการณ์หลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย สภาวะเศรษฐกิจคงไม่เหมาะกับการทำโครงการขาย แต่ในแง่ของการซื้อที่ดินเปล่าบางแปลงที่เจ้าของขายทิ้งในราคาที่ต่ำเพื่อเอาเงินก้อนใหญ่มาใช้นั้นคงยังมี ดังนั้นแม้ไม่มีเวลาในการทำโครงการเอง แต่เขาไม่ได้หยุดซื้อที่ดินทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

เหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องกลับมาใหม่ในวันนี้จึงเป็น เพราะเขามีที่ดินจำนวนมาก จะขายที่ดินทิ้งก็เสียดาย ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในการทำธุรกิจก็มีอยู่เต็มเปี่ยม ประกอบกับสายสัมพันธ์ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐฯ ที่เกี่ยวพันกับการขอจัดสรรที่ดิน ก็มีอยู่ รวมทั้งบรรดาทีมงานเองในบริษัทก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น

ญาณเดชมั่นใจว่าในสถานการณ์ที่การขางขันหนักหน่วงนี้เขาไม่กลัว เพราะมีจุดเด่นที่นักพัฒนาที่ดินหลายรายไม่มีเช่นในเรื่องของการขายชื่อเสียงของผู้ประกอบการ ซึ่งเคยทำโครงการมาแล้วมากมาย รวมทั้งการมีต้นทุนในการทำโครงการถูกมากเพราะส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินซึ่งซื้อไว้นานแล้ว ส่วนในเรื่องกลยุทธ์ในการมองตลาดและการขายนั้น ญาณเดชก็คือนักการตลาดคนหนึ่งที่มี ปริญญาตรีและปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาทางด้านการบริหารธุรกิจ และยังเป็นผู้แต่งตำราทางด้านบริหารงานขายอีกหลาย ๆ เล่มดังนั้นการมองตลาดของเขาจึงไม่น่าพลาดไม่ว่าภาวะของตลาดจะอยู่ในสภาพอย่างไร

และที่สำคัญ ส่วนใหญ่แล้วแต่ละโครงการ จะมีขนาดเล็ก ประมาณ 20-50 ไร่ ที่เปิดกระจัดกระจายไปทั่วซึ่งทำให้ง่ายต่อการบริหารงาน ง่ายต่อการควบคุมการก่อสร้าง สามารถเปิดการขายได้รวดเร็ว และที่สำคัญ เขาเลี่ยงที่จะเปิดโครงการขายชนกับโครงการใหญ่ ๆ

เมื่อบริษัทยังมีแผนงานชัดเจนที่จะพัฒนาอีกหลายโครงการในปีนี้จึงจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างขององค์กรให้มั่นคงขึ้น มีทีมงานที่จะเข้ามารองรับงานมากขึ้น แต่ที่แน่นอนคือญาณเดชไม่เคยทิ้งการเมือง

ญาณเดชคงไม่มีเวลาเต็มตัวที่จะบริหารโครงการที่อยู่อาศัยได้แน่นอน งานการเมืองยังหอมหวานสำหรับเขา เพราะขณะนี้แน่นอนแล้วว่าเขาคือทีมงานคนหนึ่งของการลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มหานคร ของพิจิตต รัตกุล ในนามอิสระ หลังจากผิดหวังในการลงแข่งขันในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการ กทม. มา 2 ครั้งแล้ว วันนี้เขายังพร้อมที่จะต่อสู้ใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นแน่นอนว่าเหตุผลเบื้องลึกของญาณเดชที่กลับมาในครั้งนี้อีกอย่างก็คือ เมื่อวางฐานในเรื่องธุรกิจของครอบครัวเรียบร้อยแล้ว เขาจะได้ทั้งเงิน และเวลามาเล่นการเมืองได้เต็มที่ขึ้นนั่นเอง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us