ตลาดหุ้นผันผวนหนัก หลังผลการเลือกตั้งประชาชนโหวตเสียงต้านระบอบทักษิณ โดยช่วงเช้าปรับตัวลงลึกสุดกว่า 5 จุด ก่อนจะปิดบวก 5.42 จุด จากแรงซื้อเข้ามาในหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ ขณะที่หุ้น "shin-ADVANC" รูดสวนตลาด บล.ฟาร์อีสท์ฯ ตอกย้ำแนะขาย "ADVANC" ด้านบล.กรุงศรีฯ คาดการเมืองยืดเยื้อ ระบุเหตุผลเลือกตั้งยังไม่สามารถตอบโจทย์คนตลาดหุ้นได้ เล็งปรับเป้าจีดีพี ส่วนบล.กิมเอ็ง เชื่อขอนายกฯพระราชทานส่งผลดีต่อตลาดหุ้น ขณะที่ "เกียรตินาคิน" ชี้ยังต้องรอผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอย่าง

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ ( 3 เม.ย) ดัชนีเปิดในแดนลบเกือบตลอดทั้งวันในกรอบแคบ ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ (มาร์เกตแคปใหญ่) หนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงก่อนจะปิดตลาด และปิดการซื้อขายดัชนีปิดที่ 738.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 บาท หรือ 0.74% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน ขณะที่ในจุดต่ำสุดอยู่ที่ 728.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,789.94 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 387.07 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 332.97 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 720.04 ล้านบาท

SHIN-ADVANCร่วงสวนตลาด

ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มชินคอร์ป ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ SHIN ราคาปิดที่ 37.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.97% มูลค่าการซื้อขาย 24.37 ล้านบาท, บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ราคาปิดที่ 90 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.64% มูลค่าการซื้อขาย 363.45 ล้านบาท, บมจ.ชินแซทเทลไลท์ หรือ SATTEL ราคาปิดที่ 11.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 27.37 ล้านบาท , บมจ.ไอทีวี หรือ ITV ราคาปิดที่ 9.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.51% มูลค่าการซื้อขาย 31.12 ล้านบาท, บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ หรือ CSL ราคาปิดที่ 3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.81% มูลค่าการซื้อขาย 3.58 ล้านบาท

นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ แม้ว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกรอบของดัชนีจะเพิ่มขึ้นจาก 700-750 จุด เป็น 720-770 จุด

"พื้นฐานเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง แต่การตัดสินใจทางการเมืองยังเป็นปัจจัยหลักในการชี้แนวทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากมีการขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น แต่หากนายกฯ จะเดินหน้าทางการเมืองต่อ หรือการหาผู้ขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน จะส่งผลให้การทำงานทางการเมืองของรัฐบาลเป็นไปอย่างยากลำบาก"

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เกียรตินาคิน กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของดัชนีวานนี้ยังอยู่ในกรอบที่มีการคาดการณ์ เนื่องจากนักลงทุนยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ขณะนักลงทุนยังมีการเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มเก็งกำไร โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์หลักทรัพย์ และยังรวมไปถึงหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับปัจจัยลบทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดหวังเกี่ยวกับการแถลงข่าวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งจะแถลงในรายการกรองสถานการณ์คืนนี้ โดยในประเด็นดังกล่าวอาจจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้แนวต้านอยู่ที่ 740 จุด และแนวรับ 730 จุด

กรุงศรีฯเชื่อการเมืองยืดเยื้อ

ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบล. กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ปัจจัยทางการเมืองจะยังยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนี้กระบวนการทางการเมือง เช่น การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี การเปิดประชุมสภา และการเลือกตั้งซ่อมในเขตที่มีคะแนนเสียงไม่ถึง 20% จะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้บริหารประเทศ

ทั้งนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยนั้นยังคงไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่คาดว่ามูลค่าการซื้อขายในช่วงไตรมาส 2/49 จะมีการปรับเพิ่มขึ้นดีกว่าในช่วงเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ทางการเมืองว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ จึงได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน

“หากปัจจัยทางการเมืองจบ จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงน่าลงทุนอยู่จากราคาหุ้นที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ทำให้ยังมีรูมให้เม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ” ม.ร.ว.ศศิพฤนท์

สำหรับนักลงทุนต่างประเทศยังคงรอดูสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีการตัดสินใจอย่างไร โดยคาดว่านักลงทุนต่างประเทศคงจะไม่ลงทุนมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาส3-4 น่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เม็ดเงินที่ขณะนี้อยู่ในรูปของเงินฝากและกองทุนรวมกลับเข้ามาลงุทนในตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาในการปรับประมาณการเศรษฐกิจ(GDP) เนื่องจากผลกระทบทำให้การบริโภคมีการชะลอตัว ซึ่งหากปรับก็จะปรับไม่มากจากที่คาดไว้ที่ 4.5% ซึ่งคาดการณ์ ขณะที่การประมาณการเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้เหลือ 682-784 จุด จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 639-827 จุด

ฟาร์อีสท์ฯแนะขายADVANC

บทวิเคราะห์บล. ฟาร์อีสท์ เปลี่ยนคำแนะนำในการลงทุนหุ้น ADVANC จากซื้อลงทุนเป็นขายทำกำไร เนื่องจากประกาศตัวเลขลูกค้าสุทธิของเดือน ก.พ. 49 มีลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิเพียง 33,600 เลขหมาย ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขต่ำสุดในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในปี 49 ADVANC ตั้งเป้าหมายลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิอยู่ที่ 1.20 ล้านเลขหมาย หรือเฉลี่ยเดือนละ 100,000 เลขหมาย โดยในเดือน ม.ค. 49 ที่ผ่านมามีลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 103,700 เลขหมาย แต่หลังจากที่กลุ่ม Temasek เข้ามามีสัดส่วนถือหุ้นใน SHIN ประมาณ 96% ส่งผลให้เกิด Boycott สินค้าและบริการของกลุ่ม SHIN โดยเฉพาะ AIS

อย่างไรก็ตาม ประเมินมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของ ADVANC ณ สิ้นปี 49 โดยวิธี Discounted Cash Flow ได้เท่ากับ 120.00 บาท

ชินฯแจงข้อมูลไม่ตรงบริษัทย่อย

นางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN แจ้งการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อาร์ค ไซเบอร์ จำกัด (ARC) จากบริษัท เอดี เวนเจอร์จำกัด (ADV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 90.91% และการขายหุ้นสามัญใน ADV เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ

ทั้งนี้ ลักษณะโดยทั่วไปของรายการ SHIN เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดรวม 47.5% ของ ARC จาก ADV ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SHIN ถือหุ้นในสัดส่วน 90.91% โดยรายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับบริษัท อาร์ค ไซเบอร์ จำกัดดำเนินธุรกิจอินเตอร์เน็ต โดยทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว 292,700,000 บาท จำนวน 58,540,000 หุ้น จำนวนหุ้นที่ซื้อ 27,806,498 หุ้น ราคาซื้อต่อหุ้น 0.293 บาท ซึ่งเป็นราคามูลค่าตามบัญชีสุทธิของ ARC ขณะที่สัดส่วนของหุ้นที่ถือก่อนการซื้อ SHIN ถือหุ้นของ ARC ผ่าน ADV โดย SHIN ถือหุ้นของ ADV จำนวน 90.91% และ ADV ถือหุ้นใน ARC จำนวน 47.5% ของทุนชำระแล้ว

นอกจากนี้ SHIN ขายหุ้นสามัญของ ADV ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SHIN ถือหุ้นในสัดส่วน 90.91% ให้แก่ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL ในสัดส่วน 28,050,000 หุ้น หรือ 51.00% ราคาขายต่อหุ้น 0.64 บาท ทำให้สัดส่วนของหุ้นที่ถือหลังการขาย SHIN ถือหุ้น ADV จำนวน 39.91%

ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ กรรมการ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL แจ้งว่าคณะกรรมการมีมติอนุมัติหลักการให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอดี เวนเจอร์จำกัด (ADV) ในสัดส่วน 51% ของทุนชำระแล้ว จากบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (SHIN) ทั้งนี้รายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย