|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดีแทคยกธงขาว ลดราคาสู้เอไอเอสไม่ไหว เหตุต้นทุนสัมปทานต่างกันมาก หลังเอไอเอส ตอบโต้ดีแทคด้วยโปรแกรมเอาไปเลย ชั่วโมงละ 2 บาท ดิ้นหนีตาย หลังยอดลูกค้าเพิ่มสุทธิดิ่งเหวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หวังกวาดยอดเพิ่มเดือนเดียว 6 แสนราย
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสตอบโต้สถานการณ์แข่งขันที่รุนแรงในตลาดโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ดีแทคออกแคมเปญแฮปปี้ของดีแทคที่คิดค่าบริการชั่วโมงแรก 2 บาทหลังจากนั้นนาทีละ 3 บาท(โปรโมชั่นฉลองสงกรานต์จากแฮปปี้ สมัครตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2549 โทร. 1 ชั่วโมงแรก จ่าย 2 บาท ตลอด 24 ชั่วโมงนาทีต่อไปนาทีละ 3 บาท ระยะเวลาโปรโมชัน 30 วัน ถ้าลูกค้าเปิดใช้บริการระหว่างวันที่ 1-15 เมษายน 2549 รับสิทธิโทร.ฟรีช่วงวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2549 ระหว่างเวลา 05.00-17.00 น. ด้วยโปรแกรมใหม่เอาไปเลย ชั่วโมงละ 2 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้าที่ซื้อซิมการ์ดใหม่ในระบบเติมเงินวัน-ทู-คอล
“เป็นการตอบโต้ของเอไอเอสภายใน 24 ชั่วโมง คือตัดสินใจกันเช้าวันศุกร์ที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาและโปรแกรมใหม่ชั่วโมงละ 2 บาทมีผลทันทีในวันเสาร์ที่ 1 เม.ย.”
การตอบโต้ครั้งนี้เอไอเอสเรียกว่าเป็นกลยุทธ์สายฟ้าแลบ เป็นปรากฏการณ์ที่เอไอเอสเชื่อว่าคู่แข่งคิดไม่ถึง เพราะค่าบริการดังกล่าว ถึงแม้จะสามารถใช้ได้แค่ 1 เดือนแต่เป็นค่าบริการที่ต่ำสุดในระบบของเอไอเอสแล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่เอไอเอสเชื่อว่าพิสูจน์ให้เห็นองค์กรที่ถึงแม้จะใหญ่ขนาดไหน แต่มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะอัดแคมเปญการตลาดตอบโต้คู่แข่งแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
“เรากำลังจะบอกว่าช้างก็เต้นระบำได้ เดิมมีการพูดว่าตอบโต้ภายใน 7 วัน แต่เอไอเอสกำลังบอกว่าต้องตอบโต้กันระดับคิดเป็นชั่วโมงแล้ว สำหรับการแข่งขันตอนนี้”
เอไอเอสได้รับผลกระทบหนักจาก 4 ปัจจัยที่รุมล้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ การบอยคอต และการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง ถึงขนาดทำให้ยอดลูกค้าเพิ่มสุทธิ (Net Add) ที่เดิมอยู่หลักแสน กลายเป็นเหลือเพียง 3 หมื่นกว่าๆ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะลดต่ำกว่านั้นในเดือนมี.ค. ทำให้เอไอเอสอยู่ไม่ได้ต้องออกโปรโมชันชั่วโมงละ 2 บาทมาตอบโต้คู่แข่ง และหวังยอดลูกค้าใหม่มากถึง 6 แสนรายซึ่งจะช่วยพยุงยอด Net Add เดือนเม.ย.ให้กระเตื้องสูงขึ้น
“การแข่งขันรุนแรงขนาดที่ดีลเลอร์ถูกบังคับให้เลือกค่าย หากอยากขายสีแดง ก็ไม่ต้องขายสีเขียว เราไม่ได้บอกว่าการแข่งขันถูกหรือผิด เพราะถือว่าการแข่งขันเป็นเรื่องของมืออาชีพ แต่ที่แน่ๆ เราจะไม่เข้าไปแข่งในบ้านคู่แข่ง เอไอเอสต้องการให้คุณนอนสบายในบ้าน เก็บแรงไว้มาคิดเรื่องการแข่งขันดีกว่า”
เขาย้ำว่าวันนี้การแข่งขันเป็นเรื่องของการหาลูกค้าใหม่ ซึ่งเอไอเอสเชื่อว่าที่ผ่านมามีลูกค้าจำนวนไม่น้อย ต้องการใช้เครือข่ายที่มีคุณภาพของเอไอเอส แต่อาจติดขัดเรื่องค่าบริการที่คู่แข่งถูกกว่า แต่ตอนนี้เอไอเอสลดราคาลงมาถึงระดับเทียบกันได้และดีกว่าคู่แข่งแล้ว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มนี้ สามารถเข้ามาทดลองใช้บริการภายใต้เครือข่ายของเอไอเอสได้
“เอไอเอสทำงานด้านการตลาดแบบไร้รูปแบบ ตอบโต้เร็ว ทำในสิ่งที่คู่แข่งคิดไม่ถึง หากคู่แข่งถอยราคาลงไปอีก เราจะตอบว่าเอไอเอสไม่ได้บอกว่าเราจะไม่ถอยราคาลงไปสู้”
ทั้งนี้ เป้าหมายลูกค้าเพิ่มสุทธิทั้งปีของเอไอเอสอยู่ที่ 1.2 ล้านราย ทำให้เอไอเอสจำเป็นต้องเร่งออกโปรแกรมใหม่มาสร้างยอดทดแทนลูกค้าเก่าที่ออกไป พร้อมทั้งเตรียมโปรแกรมสำหรับลูกค้าเก่าเพื่อรักษาฐาน
สำหรับโปรแกรมเอาไปเลย ชั่วโมงละ 2 บาท ลูกค้าต้องซื้อซิมการ์ดใหม่ราคา 245 บาท ได้สิทธิโทร.ฟรีเดือนละ 50 บาท 6 เดือนรวม 300 บาท บริการเสริมฟรีมูลค่ากว่า 600 บาทนาน 1 เดือนอาทิ SMS ฟรี 10 ครั้ง GPRS ฟรี 4 ชั่วโมง MMS ฟรี 30 ครั้ง
ด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคคงลดราคาลงมาต่ำกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะต้นทุนบังคับ เนื่องจากดีแทคต้องเสียส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ รวมทั้งค่าแอ็คเซ็สชาร์จสูงถึง 40% ในขณะที่เอไอเอสจ่ายส่วนแบ่งรายได้ขณะนี้ 30% ส่วนต่างที่ห่างกัน 10% ถ้าคิดจากฐานรายได้ 1 แสนล้าน ก็ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
“เราคงหยุดแล้ว เพราะถ้าสู้ต่อไป ลดราคาลงมาอีก เราคงตายแน่ เพราะต้นทุนต่างกันมาก คราวนี้ต้องถอยก่อน ยังไงก็สู้ไม่ได้”
เขาย้ำว่าเอไอเอสลดราคาลงมาขนาดนี้ เพราะผลกระทบและแรงกดดันโดยเฉพาะเรื่องส่วนแบ่งการตลาด เอไอเอสยอมไม่ได้ที่จะมีส่วนแบ่งตลาดต่ำกว่า 60% ดังนั้นจึงต้องอัดเต็มที่
“เราคงหยุดแค่นี้ ไม่งั้นเขาไม่ยอมง่ายๆ หากแชร์ต่ำกว่า 60% อย่างไรก็ตาม การเล่นราคาที่รุนแรง อยากให้กทช.ซึ่งถือเป็นผู้ใหญ่เข้ามาดูแลเรื่องเครือข่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ได้ให้เกิดปัญหาการโทรข้ามเครือข่ายลำบากเหมือนปีที่ผ่านมา”
|
|
|
|
|