|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"อิสระ บุญยัง" ระบุหากการเมืองยืดเยื้อเกิน 3 เดือนกระทบภาคอสังหาฯ จากที่ปัจจุบันส่งผลแค่บ้านราคาแพงชะลอตัว ชี้แนวโน้มดีมานด์-ซัปพลายบ้านชะลอตัว ลุกลามต่ออัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง แนะผู้ประกอบการแบ่งเฟสพัฒนาป้องกันความเสี่ยง
นายอิสระ บุญยัง อุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า นับจากเกิดปัญหาความไม่สงบที่ผ่านมาโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยยังไม่ถูกกระทบ แต่หากมีการยืดเยื้อออกไปอีกเกินกว่า 3 เดือน เชื่อว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแน่นอน โดยเริ่มจากการจับจ่ายใช้สอยภาคประชาชนลดลง หลังจากนั้นภาคการผลิตจะชะลอตัว แม้จะไม่ลดกำลังการผลิต แต่ก็ไม่ลงทุนเพิ่ม ซึ่งเมื่อเรื่องยืดเยื้อออกไปนานถึง 2 ไตรมาส จะส่งผลกระทบต่อสินค้าประเภทรถยนต์หรือบ้าน ซึ่งต้องใช้เงินก้อนหรือเงินจำนวนมากในการซื้อหา ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือยมีการชะลอตัวซึ่งเป็นส่งผลดี
ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่กระทบในขณะนี้ แต่หากการเมืองยืดเยื้อต้องส่งผลกระทบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ถือเป็นช่วงของการตั้งรับ แต่หากตั้งรับนานๆจะกลายเป็นการล่าถอย เกิดการลดขนาดลง ซึ่งผู้ประกอบการบ้านราคาแพงเริ่มได้รับผลกระทบจากยอดขายชะลอตัวไปแล้ว สังเกตได้จากการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายที่แรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาวะของตลาด หากการเมืองยืดเยื้อจะเห็นแนวโน้มของความต้องการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ในส่วนของสินค้ามีการชะลอตัวเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นความสมดุลของตลาด ทำให้ไม่มีปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย แต่จะไม่มีอัตราการเติบโต ซึ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวไปด้วย
นายอิสระกล่าวต่อว่า นับจากปี 2543 กฎหมายจัดสรรได้กำหนดให้การขออนุญาตจัดสรรต้องขอทั้งโครงการ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนที่ดิน การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เงินค้ำประกันส่วนกลาง และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการได้ควบคุมจำนวนสินค้าด้วยการแบ่งเฟสพัฒนา เพื่อให้สัมพันธ์กับยอดขาย อีกทั้งยังลดภาระการแบ่งรับต้นทุนได้ เห็นได้จากผู้ประกอบการแต่ละรายดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ส่วนปัญหาการชะลอตัวของกำลังซื้อในช่วงนี้ ผู้ประกอบการอาจมีวิธีแก้ไขด้วยการแบ่งเฟสเพิ่มมากขึ้นอีก เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาย ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้
"กฎหมายจัดสรรกำหนดให้ต้องขออนุญาตก่อสร้างทั้งโครงการ แต่ผู้ประกอบการโครงการแนวราบสามารถแก้ได้ด้วยการแบ่งเฟสขาย ทำให้ลดความเสี่ยงลงไปได้ แต่ในส่วนของโครงการอาคารสูงไม่สามารถชะลอได้ต้องก่อสร้างเสร็จก็ต้องยอมรับภาระตรงนี้ไป โครงการอสังหาฯ ไม่ใช้จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ทำ แต่ต้องวางแผนมาแล้วไม่น้อย 6-1 ปี ดังนั้นโครงการที่เปิดขายในวันนี้อาจคิดกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในส่วนของโครงการที่ยังไม่เปิดก็สามารถชะลอการเปิดออกไปได้" นายอิสระกล่าว
แหล่งข่าวบริษัทอสังหาฯ กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่จะต้องจับตามองคือ โอกาสของจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะเกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน โดยในส่วนของบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัย ต่างยึดแนวการบริหารความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากค่อนข้างกังวลต่อความเปราะบางของการเมืองในขณะนี้ ประกอบกับแนวโน้มของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลง ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อผู้บริโภคที่หันมาดูแลการใช้จ่ายมากขึ้น
" ผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมาทรัพย์หรือต่อภาคธุรกิจอื่นเริ่มปรากฎเด่นชัดมากขึ้น ทำให้ทุกบริษัทมอนิเตอร์ปัญหาต่างๆอย่างระมัดระวัง การลงทุนพัฒนาโครงการใหม่หากยังไม่เกิดขึ้นก็ชะลอดูท่าทีไปก่อน ส่วนที่ลงทุนไปแล้วก็จะปรับวิธีการบริหารจัดการโครงการ เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อภาระต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้น "แหล่งข่าวกล่าว
|
|
|
|
|