Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539
"ดิศักดิ์ ศรีสุวรรณ กับ "เอเทค" ที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับยักษ์คอมพิวเตอร์"             
 

 
Charts & Figures

แหล่งผลิตคอมพิวเตอร์ในแถบเอเชีย-แปซิฟิก


   
search resources

เอเทค คอมพิวเตอร์, บจก.
ดิศักดิ์ ศรีสุวรรณ
Computer




ใครจะคาดคิดว่าวิศวกรหนุ่ม จากรั้วสถาบันพระจอมเกล้าพระนครเหนือจะสร้างตัวโดยลำพัง จนกลายมาเป็นเจ้าของกิจการประกอบเครื่องพีซีมีทุนหมุนเวียนรับร้อยล้านบาท

จากแผงวงจรทดลอง หรือซิงเกิลบอร์ดไมโครคอมพิวเตอร์ ที่ดิศักดิ์ ศรีสุวรรณ และเพื่อนรุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัย ค้นคว้าขึ้นและสามารถคว้ารางวัลที่ 1 จากการจัดประกวดของสมาคมอิเล็กทรอนิคส์ ประเทศไทย กลายเป็นจุดเริ่มให้ดิศักดิ์ผันตัวเข้าสู่การเป็นนักธุรกิจแบบไม่ตั้งใจ

หลังจากจบการศึกษา ดิศักดิ์เริ่มนำแผงวงจรทดลองชิ้นนี้วางขายในตลาด โดยใช้วิธีลงโฆษณาบนหน้าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ปรากฏว่าแผงวงจรชิ้นนั้นขายได้ดิศักดิ์เริ่มมองหาอุปกรณ์ประเภทอื่น ๆ

"เครื่องเลียนแบบ แอปเปิล ทู คือเครื่องคอมพิวเตอร์ชิ้นแรกที่ผมประกอบขึ้นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงนั้นไอบีเอ็มยังไม่ได้ผลิตพีซี ในขณะที่เครื่องแอปเปิล ทู ก็มีแต่เครื่องเลียนแบบที่ประกอบขึ้นอยุ่ในฮ่องกง" ดิศักดิ์ย้อนอดีต

ดิศักดิ์ใช้ช่องทางจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม คือ โฆษณาผ่านบนหน้านิตยสารทางด้านคอมพิวเตอร์ และใส่ชื่อเสียงเรียงนามพร้อมที่อยู่ให้ลูกค้าที่สนใจ จากจุดนั้นเองดิศักดิ์เริ่มหันมาจัดตั้งเป็นร้านค้าในชื่อของไมโครชาแนล เพื่อจำหน่ายพีซีที่ประกอบขึ้นมาเองบนห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า

เมื่อร้านแรกเริ่มไปได้สวยดิศักดิ์ลงมือประกอบเครื่องพีซี และติดยี่ห้อเป็นของตัวเองใช้ชื่อว่า "POWELL-โพเวลล์" พร้อมทั้งจัดตั้งเป็นร้านแห่งที่สองในชื่อเดียวกันบนห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า

ในช่วงนั้นเองดิศักดิ์มีโอกาสได้รู้จักกับกษิณ อร่ามเสรีวงศ์ซึ่งทำธุรกิจทัวร์จึงชักชวนมาเป็นหุ้นส่วนลงขันในร้านค้าทั้งสองแห่ง ด้วยสัดส่วน 50:50 โดยดิศักดิ์รับหน้าที่พัฒนาสินค้า ส่วนกษิณรับหน้าที่จัดหาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ

แม้ธุรกิจจะไปได้ดี แต่ทำได้เพียงปีกว่าปัญหาความไม่เข้าใจก่อตัวขึ้น และรุนแรงถึงขั้นแยกทางกัน ดิศักดิ์ขายหุ้นทั้งหมดให้กับกษิณซึ่งดำเนินกิจการร้านทั้งสองต่อมาทุกวันนี้

"ตอนนั้นผมก็มานั่งคิดว่าจะทำอะไรดี ผมจบวิศวกรรมมาและทำคอมพิวเตอร์มาตลอด ก็เลยหันมาประกอบคอมพิวเตอร์อีกครั้ง"

ดิศักดิ์นำเงินทั้งหมดที่ขายหุ้นได้ 3 ล้านบาทมาเป็นทุนทำธุรกิจประกอบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาอีกครั้ง ใช้ชื่อว่า "ATEC-เอเทค" เปิดขายเป็นบูทเล็กๆ บนห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง

จากร้านประกอบคอมพิวเตอร์เล็ก ๆ เมื่อ 7 ปีที่แล้วปัจจุบันดิศักดิ์มีร้านโชว์รูม จัดจำหน่ายพีซีเอเทคบนพันธุ์ทิพย์พลาซ่า 4 คูหา ซึ่งย้ายมาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว และเช่าพื้นที่บนชั้น 33 อาคารพญาไทพลาซ่า ใช้เป็นสำนักงานใหญ่ และสถานที่ประกอบเครื่อง

ปีที่แล้วเอทคมียอดขายปีที่ผ่านมา 380 ล้านบาท มียอดจำหน่ายประมาณ 1,000 เครื่องต่อเดือน มีทุนหมุนเวียน 100 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

ล่าสุดดิศักดิ์ได้เตรียมย้ายสถานที่ประกอบเครื่อง ไปอยู่ที่คอนโดอุตสาหกรรมเมืองทองธานี บนเนื้อที่ 1,400 ตารางเมตร เพื่อขยายกำลังการประกอบให้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ต่อเดือน และเตรียมขยายตลาดไปต่างจังหวัด โดยผ่านดีลเลอร์ที่แต่งตั้งขึ้นหลายรายในต่างจังหวัด รวมทั้งประเทศลาวด้วย

เร็ว ๆ นี้ ภาพยนต์โฆษณาพีซีเอเทคจะปรากฏบนจอทีวีเป็นครั้งแรก ซึ่งเอเทคจะกลายเป็นพีซีรายที่ 4 ที่ทำโฆษณาบนหน้าจอทีวี เพราะก่อนหน้าที่นี้มีคอมแพค ไอบีเอ็ม และเอเซอร์เท่านั้น

ดิศักดิ์ให้เหตุผลว่า ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับพีซีท้องถิ่นที่ไม่ได้ด้อยกว่าพีซีนำเข้าแต่อย่างใด โดยเฉพาะในแง่ของคุณภาพเพียงแต่ค่านิยมของคนไทยที่ยังยึดติดอยู่กับยี่ห้อเท่านั้น ซึ่งในสายตาของเขาแล้ว เชื่อว่าบทบาทของพีซีท้องถิ่นจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า คงจะครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 50% ของตลาดโดยรวม

"ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็นคนที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ในขณะที่ลูกค้าทั่วไปจะยึดติดกับยี่ห้อ ดังนั้นเราต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับพีซีท้องถิ่น ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเท่าใด" ดิศักดิ์กล่าวอย่างมุ่งมั่น

นับได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของพีซีท้องถิ่นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการสำรวจของสมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ พบว่ามูลค่าตลาดของพีซีในปีที่แล้วมีอยู่ถึง 271,300 เครื่อง คิดเป็นมูลค่า 11,598 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากต่างประเทศ อาทิ คอมแพค ไอบีเอ็ม เดค ฮิวเลตต์-แพคการ์ด เอเซอร์ ต่างให้ความสำคัญกับตลาดพีซีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโครงสร้างราคาที่ลดต่ำลงมากจนแทบไม่เห็นความแตกต่าง กระทั่งมีการประเมินว่า จะส่งผลให้บรรดาพีซีประกอบในประเทศทั้งหลายคงต้องล้มหายตายจากไปแน่นอน

แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ปรากฏว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พีซีท้องถิ่น อย่างเอเทค และโพเวลล์ หรือแม้แต่เหล่าบรรดาร้านค้าบนห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ซึ่งประกอบเครื่องขายเองแบบไม่มียี่ห้อ ไม่มีการโปรโมตสินค้า ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดจำนวนหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์กระทั่งผู้ค้าพีซีบางรายยังยอมรับว่าพีซีท้องถิ่นเหล่านี้มีบทบาทเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

ดิศักดิ์เล่าว่า เป็นเพราะราคาเครื่องพีซีท้องถิ่นในประเทศที่ต่ำกว่าพีซีนำเข้า แต่คุณสมบัติของเครื่องไม่ได้แตกต่างกัน เพราะใช้ชิ้นส่วนมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน ซึ่งล้วนอยู่ในย่านเอเชีย-แปซิฟิก (ดูตารางประกอบ) ดังนั้นการที่ไทยอยู่ใกล้แหล่งผลิตทำให้ต้นทุนค่าขนส่งต่ำกว่า ในขณะที่พีซีนำเข้าต้องซื้อชิ้นส่วนเหล่านี้ไปประกอบ และส่งกลับมาขายอีกครั้งหนึ่งซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น ชิ้นส่วนบางประเภทที่ราคาเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ มาก เช่น ซีพียู หรือแรม ดิศักดิ์เล่าว่าจะใช้วิธีสต็อคสินค้าในเวลาที่สั้นมากไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนลดต่ำลงไปอีก

ที่สำคัญการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีของพีซีท้องถิ่นก็ทำได้เร็วกว่า ซึ่งดิศักดิ์ เล่าว่า พีซีท้องถิ่นคล่องตัวมากกว่าเครื่องนำเข้ามาก จะเห็นได้ว่า ในขณะที่พีซีท้องถิ่นจะมีเครื่องใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่วางตลาด แต่พีซีนำเข้ายังต้องรอเวลาไปอีกระยะหนึ่ง

ข้อมูลในเรื่องเหล่านี้ ได้มาจากซัปพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วน เช่นตอนนี้รู้แล้วว่า เทคโนโลยี ดีวีดีจะมาแทนที่ซีดีรอม ก็จะเตรียมตัวประกอบและวางจำหน่ายได้ก่อนพีซีนำเข้า

"คอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราต้องออกสินค้าใหม่ทุก 2 เดือน เพราะในขณะที่คนอื่นเดิน แต่เราต้องวิ่ง และต้องวิ่งให้เร็วกว่าด้วย"

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว บรรดาพีซีนำเข้าทั้งหลายคงประมาทไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่าพีซีท้องถิ่นจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าแต่อาจเป็นกองทัพมดที่ไม่อาจมองข้าม

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us