|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สปา ธุรกิจที่บูมสุดๆเมื่อ 2 ปีที่แล้วกำลังจะถูกปรับโฉมใหม่!..เปิดแนวรุกทางการตลาดบริการแบบเฉพาะทางด้วยงบลงทุนมหาศาล...ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยลดลงแน่และเกิดรายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเข้ามาแทน ขณะเดียวกันเส้นทางของธุรกิจบริการแบบสปาไทยยังคงพุ่งเป้าฝันสู่ระดับอินเตอร์
เม็ดเงินกว่า 7.5 พันล้านที่สะพัดในธุรกิจสปาไทยเมื่อปีที่ผ่านมาคือตัวเลขที่ทำให้สมาคมสปาไทยต้องเร่งพัฒนาวัตถุดิบและรูปแบบงานบริการให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล โดยสมาคมสปาไทยคาดหวังไว้ในปี 2549 จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นราวกว่า 8 พันล้านบาท
งาน ISPA 2006 Thailand International Spa & Wellness Conference and Exhibition คือสมการที่ทางสมาคมสปาไทยเป็นผู้จัดขึ้น ขณะที่คำตอบ อภิชัย เจียรอดิศักดิ์ นายกสปาไทย กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการสปาไทยได้ประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด และเป็นโอกาสทองของการพบปะทางธุรกิจ ไม่ใช่เฉพาะในแถบเอเชียด้วยกัน แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับสากล
“มีการจัดเวิร์คช็อปในหัวข้อ Super Spa Manager…From Inside Out เพื่อเพิ่มศักยภาพและวิสัยทัศน์ในการบริหารงานและการจัดการให้กับผู้จัดการสปาอีกด้วย ขณะเดียวกันงานนี้จะเป็นเวทีในการผนึกกำลังของภูมิภาคในด้านการลงทุน กลยุทธ์การตลาด ทรัพยากรบุคคล และความเป็นแหล่งความรู้ และนี่คือที่มาของ Presidential Forum “อภิชัย กล่าว
ปัจจุบันแนวโน้มการเปิดตัวของธุรกิจสปาในประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับจากปี 2545 ผู้ประกอบการเปิดกิจการมาก เฉลี่ยปีละกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สปาไม่ค่อยได้มาตรฐาน และมีการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขไว้ประมาณ 700 แห่ง
การลงทุนธุรกิจสปาในปีนี้ คาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 10% ของจำนวนสปาทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการสปารายย่อย เนื่องจากปัญหาภาวะทางเศรษฐกิจ รวมถึงความไม่เข้าใจขั้นพื้นฐานด้านธุรกิจของผู้ประกอบการที่จะเข้ามาลงทุน สังเกตได้ว่าที่ผ่านมามีการปิดหรือขายกิจการเป็นจำนวนมาก
อภิชัย กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนอนาคตอันใกล้เกี่ยวกับธุรกิจสปาไทยว่า จะมีการปรับเปลี่ยนธุรกิจเป็นขนาดใหญ่ หรือบูติกสปา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแทน โดยลงทุนหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเท่าที่ผ่านมามีเปิดให้บริการแล้วอย่างเช่น สุโขสปา หรือ ที่โรงแรมดาราเทวี เป็นการสร้างความหลากหลายด้านการบริการให้มีความครบวงจร รวมถึงรูปแบบการตบแต่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะ โดยมีการเน้นเล่าเรื่องราววิถีชีวิต เป็นต้น
“นอกจากผู้ใช้บริการจะได้รับความผ่อนคลายแล้ว ความต้องการนอกเหนือจากนี้คือความรู้เพิ่มเติม ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อนำไปพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์ต่อไป” อภิชัย กล่าว
จัดโรดโชว์กระตุ้นธุรกิจ
ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชีย ไทยเป็นอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยปี 2547 พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย ใช้บริการสปา 3.3 ล้านครั้ง คู่แข่งที่สำคัญ เช่น บาหลี สิงคโปร์ แต่ด้วยที่มีลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้สปาไทยได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ในขณะนี้ทางสมาคมเริ่มวิตกกังวลว่าผู้ใช้สปาจะลดลง เนื่องจากกว่า 70% ของผู้ใช้สปา เป็นชาวต่างชาติ และขณะนี้ประเทศไทยสถานการณ์ทางการเมืองไม่นิ่ง ประกอบกับใกล้เข้านอกฤดูกาลท่องเที่ยว จะทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนยิ่งน้อยกว่าปกติ
ทางสมาคมได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการ “ไทยสปา อินวิเทชั่น” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโครงการไทยแลนด์ แกรนด์ อินวิเทชั่น โครงการดังกล่าวมีผู้ประกอบการสปาไทยเข้าร่วมกว่า 150 รายทั่วประเทศ โดยผู้ที่ใช้บริการเมื่อชำระผ่านบัตรวีซ่า จะได้รับส่วนลด 25% เริ่มจากวันนี้ถึง 31 ธันวาคม ในการกระตุ้นให้คนไทยและต่างชาติใช้บริการสปา
ดร.ไพบูลย์ ปิลันธน์โอวาท ประธานสมาพันธ์สปาไทย กล่าวถึงงานนี้ว่า ทางสมาพันธ์ฯได้จัดงาน Thai Spa Invitation 2006 ขึ้นเพื่อดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้นด้านการบริการ หรือ Grand Service หนึ่งใน 5 แนวคิดหลัก ภายใต้แคมเปญ Thailand GrandInvitation 2006เพื่อต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในธุรกิจสปาไทย ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของชาวไทยและชาวต่างประเทศคาดว่าจะกระตุ้นการเติบโตของรายได้รวมประมาณ10%เพิ่มขึ้นจากปี2548 ที่เติบโตเพียง 20%
โครงการจะมีการจัดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 3 ปี ปีละ3วัน เริ่มตั้งแต่ ปี2549นี้เป็นครั้งแรกโดยกำหนดจัดขึ้นในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว สำหรับปีนี้จัดขึ้นใน 6 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ สมุย ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน และพัทยา โดยจะคัดเลือกสปาที่ได้มาตรฐาน 100 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ทางสมาพันธ์มั่นใจว่าการจัดงานจะทำให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศหันมาให้ความสนใจมากขึ้นโดยที่ผ่านมาคนไทยยังไม่กล้าที่จะเข้าไปใช้บริการในสปาเนื่องจากกลัวค่าใช้จ่ายที่อาจจะสูงเกินไป สมาพันธ์ฯ จึงคาดหวังว่าการจัดงานดังกล่าวจะช่วยให้ชาวต่างประเทศได้รับรู้ว่าไทยมีสปาที่ได้รับการยอมรับด้านปัจจัยลบทางการเมืองยังไม่ส่งผลกระทบให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงในขณะเดียวกันมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่เกาะสมุยทำให้การเติบโตของรายได้รวมสปาไทยยังคงต่อเนื่อง
|
|
|
|
|