Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์3 เมษายน 2549
ท็อปส์ รีแบรนดิ้งผุด เดลี่ ปะทะ โลตัส เอ็กซ์เพรส             

 


   
www resources

โฮมเพจ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร็เก็ต

   
search resources

TOPS Supermarket
Retail
Marketing




ท็อปส์ รีแบรนดิ้ง พร้อมเปิดตัวหน่วยจรยุทธ์ ท็อปส์ เดลี่ ลงุทน 3-7 ล้านบาท ใช้พื้นที่ 300 ตารางเมตร รุกตลาดชุมชนเปิดศึกปะทะโลตัส เอ็กซ์เพรส ประเดิมสาขาแรกที่อ่างทอง ก่อนขยายสาขาอื่นๆต่อไป

ท็อปส์ ประกาศรีแบรนดิ้งเพื่อสร้างโพสิชันนิ่งที่ชัดเจนให้กับรูปแบบสาขาต่างๆของท็อปส์ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาท็อปส์มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างรายได้เพื่อให้บริษัทมีกำไรเพราะนับแต่เปิดกิจการมาบริษัทยังไม่เคยมีผลกำไรเลย อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมาท็อปส์ก็ประสบความสำเร็จด้วยการสร้างกำไรเป็นปีแรก โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี 500 ล้านบาท ยอดขายที่เติบโตกว่า 24% เป็นผลมาจากการขยายสาขาเพิ่ม 15 แห่งซึ่งสาขาใหม่เหล่านี้สามารถทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 4% ของรายได้ทั้งหมด รวมถึงการปรับโฉมมาร์เก็ตเพลสที่ชิดลมให้เป็น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ซึ่งทำให้สาขามีรายได้สูงขึ้น 20% นอกจากนี้บริษัทยังสามารถลดต้นทุนด้านต่างๆได้ถึง 6% เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าขนส่งซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น

การรีแบรนดิ้งในครั้งนี้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้บริหารท็อปส์ ได้แบ่งรูปแบบสาขาออกเป็น 4 แบบคือ เซ็นทรัลฟู้ดส์ ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์ และ ท็อปส์ เดลี่

"4 โมเดลธุรกิจนี้จะเป็นครอบครัวซูเปอร์มาร์เก็ต ครอบครัวร้านอาหาร ซึ่งเราแบ่งเซ็กเมนต์ตามความชอบของผู้บริโภค ใครต้องการบริโภคสินค้านำเข้าก็ไปที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ หรือ ท็อปส์ มาร์เก็ต ส่วนใครต้องการซื้อหาของกินของใช้ประจำวันก็ไปท็อปส์ ซูเปอร์ ส่วนใครที่ต้องการความสะดวก ซื้อสินค้าน้อยชิ้น หรือประเภทรีฟิลก็ไปที่ ท็อปส์ เดลี่ เราสร้างโซลูชั่นครบวงจรเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เราสามารถวิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่าคนอื่นเพราะเรามีการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรสปอร์ตรีวอร์ดการ์ด" เอียน ไพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กล่าว

เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เป็นรูปแบบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง สนใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพของอาหาร โดยในปีนี้มีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 1 สาขาคือที่เซ็นทรัลเวิลด์ ส่วน ท็อปส์ มาร์เก็ต เป็นรูปแบบที่มาแทนที่มาร์เก็ตเพลส จับตลาดระดับบนเช่นกัน โดยมีจุดขายในเรื่องของสินค้าที่หลากหลายทั้งในประเทศและนำเข้า สำหรับ ท็อปส์ ซูเปอร์ จะจับตลาดระดับกลางที่สนใจในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคา ซื้อหาสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสุดท้ายเป็น ท็อปส์ เดลี่ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของท็อปส์ ใช้พื้นที่เพียง 300 ตารางเมตร ลงทุนสาขาละ 3-7 ล้านบาท จับตลาดระดับกลาง เน้นความสะดวก ทำเลจึงเป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อทีละน้อยชิ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถขยายสาขาท็อปส์เดลี่ได้ 5 แห่งในปีนี้ และจะเพิ่มอีก 15 แห่งในปีหน้า

ปัจจุบันท็อปส์มีสาขาทั้งหมด 88 สาขา เป็นท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต 75 แห่ง มาร์เก็ตเพลส 12 แห่ง และ ซิตี้ มาร์เก็ต 1 แห่งซึ่งในปีนี้จะเปลี่ยนโฉมเป็น ท็อปส์ มาร์เก็ต

การแข่งขันในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนหน้านี้ต้องประสบปัญหาจากนโยบายราคาต่ำของบรรดาดิสเคาน์สโตร์ทั้ง โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ ซึ่งล้วนแต่มีแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่และมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทำให้ท็อปส์ ต้องมีการปรับตัวทั้งในเรื่องของการทำบัตรสปอร์ตรีวอร์ดการ์ดเพื่อศึกษาความต้องการของผู้บริโภคซึ่งได้มีการต่อยอดเป็นการทำการตลาดแบบ 1:1 คือสมาชิกจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษตามพฤติกรรมการใช้จ่ายซึ่งแต่ละคนจะมีโปรโมชั่นไม่เหมือนกันเพราะมีพฤติกรรมการชอปปิ้งที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ ท็อปส์ ยังพยายามสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเพื่อลดจุดด้อยในเรื่องของราคาด้วยการทำสินค้าที่เป็นเอ็กคลูซีพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ หรือสินค้านำเข้าที่จำหน่ายเฉพาะในเครือเซ็นทรัล ทำให้ท็อปส์มีจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ทั้งนี้ท็อปส์ก็ยังมีการทำโปรโมชั่นต่างๆไม่ว่าจะเป็นการลดราคาสินค้า การซื้อ 1 แถม 1 สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าสินค้าของท็อปส์ แพงเหมือนในอดีต

แม้ท็อปส์จะหาจุดแข็งมาแก้เกมราคาของคู่แข่งได้ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันของคู่แข่งที่พยายามลดขนาดตัวเองเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็เป็นการเลี่ยงกฎหมายผังเมืองที่ระบุว่าธุรกิจค้าปลีกที่มีพื้นที่เกิน 1,000 ตารางเมตรจะต้องตั้งห่างเขตเทศบาลไม่น้อยกว่า 15 กิโลเมตร ส่วนอาคารที่มีพื้นที่ 300-1,000 ตารางเมตรยังสามารถตั้งในเมืองได้

โลตัส นอกจากจะเป็นผู้นำด้านราคาแล้วยังถือว่าเป็นผู้นำในเรื่องของสาขาด้วย ปัจจุบันโลตัสมีสาขาที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตซึ่งใช้พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตรไม่น้อยกว่า 55 สาขา ร้านคุ้มค่าซึ่งย่อขนาดเหลือ 3,000 ตารางเมตรมี 15 สาขา ส่วนตลาดโลตัสซึ่งใช้พื้นที่อย่างน้อย 700 ตารางเมตร มี 11 สาขา ส่วนโลตัสเอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กใช้พื้นที่ 300 ตารางเมตรมี 140 สาขา โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสาขาเอ็กซ์เพรสอีก 100 สาขาในปีนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมายผังเมืองทำให้บริษัทต้องเร่งขยายธุรกิจที่มีขนาดเล็ก ทั้งนี้รูปแบบสาขาที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต 1 สาขา ทำยอดขายได้เท่ากับโลตัส เอ็กซ์เพรส 20 สาขารวมกัน ดังนั้นหากจะมุ่งเน้นร้านเอ็กซ์เพรส ก็ต้องขยายสาขาให้มากด้วย

การที่ท็อปส์ เดลี่ จะสามารถช่วงชิงตลาดจากโลตัส เอ็กซ์เพรสได้หรือไม่ นอกจากจะมีสินค้าที่ครบครันแล้วการเร่งขยายสาขาเพื่อให้ครอบคลุมตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะตลาดของทั้งเดลี่และเอ็กซ์เพรสคือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ใกล้บ้าน เป้าของท็อปส์ เดลี่ ที่วางไว้ 20 สาขา ในช่วง 2 ปีนี้คงยังไม่เพียงพอที่จะชิงตลาดจากเอ็กซ์เพรสได้ คงต้องดูกันยาว แต่ท็อปส์ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ เดลี่ มากไปกว่ารูปแบบสาขาอื่นๆ เนื่องจากรูปแบบสาขาที่เหลือไม่ได้ระบุพื้นที่สาขาไว้อย่างชัดเจน แต่เป็นเพียงคอนเซ็ปต์ของร้านซึ่งอาจมีทั้งสาขาใหญ่บ้างเล็กบ้างคละกันไป อย่างสาขาในห้างก็อาจใช้พื้นที่ประมาณ 1,500-5,000 ตารางเมตร ส่วนสาขาสแตนอะโลนใช้พื้นที่ประมาณ 800-4,000 ตารางเมตร ซึ่งเล็กพอที่จะแทรกตัวเข้าสู่ชุมชนได้เช่นกัน

ท็อปส์ใช้งบกวา 800 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่ปรับโฉมสาขาเก่าให้เป็นแบบใหม่ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะสามารถปรับโฉมได้ทั้งหมด ซึ่งภายหลังการปรับโฉมเสร็จสิ้นแล้วท็อปส์ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ 30,000 ล้านบาทในปี 2553 นอกจากนี้ยังมีการปรับลดสินค้ากว่า 400 รายการลง 5-10% เป็นการถาวร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us