กรุงศรีฯเดินหน้ารุกกลุ่มลูกค้ารายย่อย เน้นออกผลิตภัณฑ์-จัดกิจกรรมที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมเตรียมออกสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่มีหลักค้ำประกันตั้งเป้า 1 พันล้าน

นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของธนาคารว่า ในปีนี้ธนาคารยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยควบคู่กับการกระตุ้นรายได้ค่าธรรมเนียม โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ และร่วมมือกับพันธมิตรนั้น จะทำให้ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 17% หรือเพิ่มขึ้น 300 ล้านบาทเป็น 2,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าธรรมเนียม 2,400 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน

โดยล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ซีนิมา ซิตี้ จัดกิจกรรม กรุงศรี-เอสเอฟ เวิลด์ แมทช์ ทัวร์ 2006 ลัดฟ้าเชียร์ฟุตบอลติดขอบสนามประเทศเยอรมนี ในเทศกาลฟุตบอลโลก โดยผู้ที่มาใช้บริการทำธุรกรรมที่ธนาคารกรุงศรีฯ ยกเว้นบริการฝาก-ถอนเงินสด หรือชื้อบัตรชมภาพยนตร์ที่เอสเอฟฯ ระหว่างวันที่ 5 เม.ย.-31 พ.ค.นี้ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งลุ้นรับรางวัลแพ็คเก็จทัวร์ไปดูฟุตบอลโลกที่เยอรมนี 8 รางวัลด้วย ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบกีฬา ตามแนวคิด เอ็นเตอร์เทนเมนท์ แบงก์กิ้ง ซึ่งครั้งที่ผ่านมา ได้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ปรากฎว่ามีผู้เข้าร่วมชิงโชคกว่า 2 ล้านใบทีเดียว

ทั้งนี้ ธนาคารจะเน้นออกผลิตภัณฑ์และจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองและตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มเด็ก จะมีเงินฝากทีน พลัสเปิดที่เปิดตัวมา 2 เดือน แต่มียอดเงินฝากถึง 30,000 บัญชี ซึ่งถือว่าเกิน 50%ของเป้าหมาย วัยทำงานจะออกบัตรเอทีเอ็ม 3 มิติ รวมทั้งจัดกิจกรรมลุ้นไปกิจกรมมไปดูฟุตบอล ถือเป็นกลยุทธทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายและน่าจะประสบความสำเร็จในแต่ละกลุ่ม

"ธนาคารจะเน้นกลยุทธการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีพันธมิตรายใหญ่ ๆ ถึง 12 แห่ง ทำให้มีลูกค้าในกลุ่มต่างๆ เพิ่มมากขึ้นได้อย่างรวดเร็วขึ้น" นางชาลอตกล่าว

สำหรับสินเชื่อบุคคลนั้น ธนาคารคงจะยังไม่เน้นที่จะออกผลิตภัณฑ์หรือกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในส่วนนี้มากนัก โดยธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อบุคคลไว้ 1,000 ล้านบาท และไตรมาสแรกสามารถปล่อยได้ 200 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมกับพันธมิตรเป็นสินเชื่อสวัสดิการ และสินเชื่อให้กับผู้ที่มีการเบิกจ่ายบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสินเชื่อดังกล่าวเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ธนาคารต้องป้องกันความเสี่ยงไว้ จากยอดรวมของสินเชื่อดังกล่าวที่มีอยู่มีประมาณ 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อสวัสดิการ 700 ราย และสินเชื่อสำหรับผู้มีบัญชีเบิกจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร 300 ราย

นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสินเชื่อบุคคลที่จะนำเสนอเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอต่อคณะกรรมการ และคาดว่าเปิดตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยตั้งเป้าปล่อยกู้ไว้ 1,000 ล้านบาท

นางชาลอตกล่าวว่า แม้ธนาคารจะไม่เน้นสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องมีผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาอยู่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการบริการลูกค้าอย่างครบวงจร ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยไตรมาสแรกธนาคารขยายตัว 17%หรือคิดเป็น 45,000 ล้านบาท