|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สัมมากร"ยุคที่หาโอกาสสร้างรายได้ให้แก่องค์กร เล็งหาช่องขยายการลงทุนสู่ตลาดทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ พร้อมเพิ่มโครงสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการให้ได้ระดับ 10% แต่ยังยึดมั่นนโยบายพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-7 ล้านบาท พร้อมเปิดโปรเจกต์ใหม่"สัมมากรราชพฤกษ์" มูลค่ากว่าพันล้านบาท ลั่นด้วยคุณภาพโครงการและระดับราคา คาดไม่เกิน 2 ปีขายเกลี้ยง
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยถึงแนวทางของบริษัทฯว่า นโยบายหลักในการลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังให้น้ำหนักตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นฐานลูกค้าระดับปานกลางที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่พัฒนามาและอยู่ระหว่างขยายเฟสต่อเนื่อง จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการสัมมากรบางกะปิ Bangkapi บริเวณสุขาภิบาล 3 ซึ่งได้เปิดเฟสใหม่เนื้อที่ 7 ไร่ ในปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้เหลือเพียง 6 หลัง , สัมมากรมีนบุรี 1 ที่ใกล้จะปิดโครงการและ 2 มีความคืบหน้ายอดขายกว่า 50% , สัมมากร นิมิตรใหม่ เนื้อที่ 180 ไร่ มียอดขายไปกว่า 70% ,สัมมากรรังสิต คลอง2,7 และสัมมนากรนครอินทร์ เปิดเมื่อ 27 พ.ค.48 ระดับราคา 4.5-7.8 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายไปแล้ว 40%
อย่างไรก็ตาม แม้ทางบริษัทจะยึดนโยบายมาตั้งแต่แรกเริ่มที่ทำตลาดบ้านเดี่ยว แต่สัมมากรพยายามมองหาที่จะพัฒนาโครงการประเภททาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่าง โดยจะเป็นใช้ที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)ประมาณ 700 ไร่ หรือจัดซื้อที่ใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการตามศักยภาพของพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้ การมองหาโอกาสเพิ่มรายได้จากค่าเช่าและบริการจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งของบริษัท เนื่องจากขณะนี้รายได้จากค่าฟีของสัมมากรมีไม่ถึง 2% ซึ่งบางส่วนมาจากพื้นที่โครงการเก่า อาทิเช่น ให้เช่าพื้นที่ในโครงการสัมมากรสุขาภิบาล เพื่อทำตลาดนัด เป็นต้น
" สัมมากรคงต้องการคงหรือมีทรัพย์สินที่มีศักยภาพไว้ ไม่ใช่ขายขาด เพราะอย่าลืมว่าที่ดินใกล้เมืองนับวันจะหาได้น้อยลง และการที่จะทำบ้านเดี่ยวระดับ 3-5 ล้านบาทใกล้เมืองคงยากขึ้น ต่อไปคงจะเป็นบ้านเดี่ยวระดับ 7-8 ล้านบาท ซึ่งที่ดินของสัมมากรยังมีอีกเยอะกระจายไปทั่ว เราอาจจะให้คนอื่นเช่าที่ดินเพื่อสร้างรายได้ "นายกิตติพลกล่าวและว่า
ทางบริษัทได้ดำเนินการพัฒนาโครงการแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ "สัมมากรราชพฤกษ์" ระดับราคา 4.5-7.8 ล้านบาท จำนวน 293 หลัง ซึ่งอยู่ในโซนที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย เนื่องจากอยู่ใกล้กับถนนเส้นสาทร และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงเข้าใกล้โครงการ ซึ่งเป็นอีกโครงการที่บริษัทลงทุนซื้อที่ดินเหมือนกับโครงการสัมมากรนครอินทร์
โดยรูปแบบของโครงการใหม่ยังคงเป็นแบบบ้านไม่หรู แต่จะเน้นประโยชน์ใช้สอยภายในบ้านที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่
" เดิมทีคิดว่าต้องใช้เวลา 3-4 ปีจะสามารถปิดการขายสัมมากรราชพฤกษ์ได้ แต่ต้องคิดใหม่ ทั้งระดับราคาที่ไม่แพง เหมาะสมกับลูกค้าที่ต้องการสร้างครอบครัว การคมนาคมสะดวก ทำให้คาดว่าไม่เกิน 2 ปีขายหมดแน่ ขณะเดียวกันยังจะกันเนื้อที่อีก 10 ไร่ ในการพัฒนาชอปปิ้งมอลล์ เพื่อรองรับลูกค้าและสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการมากขึ้น โดยในปีนี้ สัมมากรตั้งเป้ายอดขายบ้านและที่ดินระหว่าง 630-650 ล้านบาท ขณะที่ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดรับรู้ได้และค่าเช่ากว่า 700 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วแต่ละปีเรารักษาอัตราเติบโตไว้ที่ 10% ปั่นผลผู้ถือหุ้นมาตลอด "นายกิตติพลกล่าว
|
|
|
|
|