Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 มีนาคม 2549
อียูเบรกนำเข้า-ห้ามจำหน่ายสินค้าไทยหลังตรวจสอบพบสารปนเปื้อนสารพัด             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงพาณิชย์

   
search resources

กระทรวงพาณิชย์
Commercial and business




สมาชิกอียูตรวจพบสินค้าไทยไม่ได้มาตรฐานเพียบ พบสารปนเปื้อนสารพัด สั่งปฏิเสธนำเข้า ห้ามจำหน่าย และเอาออกจากชั้นวางของทันที

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ตรวจพบสินค้าที่ไม่ปลอดภัยจากไทยหลายรายการ เพราะผลิตไม่ได้ตามมาตรฐานของอียูตามระบบเตือนภัยด้านอาหารและอาหารสัตว์ (RASFF) และได้แจ้งเตือนภัยให้ผู้บริโภคในอียูรับทราบแล้ว รวมถึงปฏิเสธการนำเข้า และห้ามจำหน่ายสินค้าที่เหลือ เพราะหากผู้บริโภคบริโภคเข้าไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

โดยการตรวจสอบพบสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น เดนมาร์คตรวจพบสารฮิสตามินในปลาทูน่ากระป๋องนำเข้าจากไทยในปริมาณ 50-500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จากกำหนดระดับสูงสุดที่สามารถปนเปื้อนสารดังกล่าวในสินค้าประมงได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งการตรวจดังกล่าวสืบเนื่องจากการร้องเรียนของผู้บริโภค ส่งผลให้เดนมาร์คดำเนินมาตรการเรียกสินค้ากลับคืน ขณะเดียวกัน ยังพบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ Vibrio Cholerae ในกุ้งกุลาดำปอกเปลือกต้มสุกจากไทย หลังจากมีการสุ่มตรวจ ณ ด่านนำเข้า ส่งผลให้ทางการเดนมาร์คดำเนินมาตรการส่งสินค้ากลับ

นอกจากนี้ อิตาลียังได้สุ่มตรวจสินค้าที่นำเข้าจากไทย และได้ตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย Yersina Enterocolitica ในปลาหมึกแช่แข็ง ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถก่อให้เกิดอาหารเป็นไข้ ปวดช่องท้อง และท้องเสียได้ และมักจะเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ส่งผลให้ทางการอิตาลีถอนสินค้าจากชั้นวางจำหน่าย ขณะที่เยอรมนีตรวจพบสารปรุงแต่งสีเหลืองต้องห้ามในเส้นบะหมี่เหลืองจากไทย ซึ่งสารดังกล่าวสังเคราะห์จากปิโตรเลียม และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เมื่อบริโภคแล้วอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยอาจมีอาการผื่นที่ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจขัดข้อง จึงได้สั่งเก็บสินค้าจากชั้นวางจำหน่าย และสินค้าอาจถูกส่งกลับ

ส่วนสหราชอาณาจักร ตรวจพบอัฟลาท็อกซินในถั่วลิสงอบกรอบ ในปริมาณเกินกำหนด โดยสารดังกล่าวเป็นสารอันตราย หากสะสมในร่างกายสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งการพบดังกล่าวเป็นการสุ่มตรวจ ณ ด่านนำเข้า จึงได้ปฏิเสธการนำเข้า และห้ามจัดจำหน่ายแล้ว รวมถึงฟินแลนด์ตรวจพบสารกันบูดซัลไฟต์ในลูกอมรสผลไม้รวม และรสสับปะรด ในปริมาณเกินกำหนด และได้สั่งห้ามจำหน่ายแล้ว ขณะที่กรีซตรวจพบโลหะหนักแคดเมียมในปลาหมึกบรรจุกระป๋องนำเข้าจากไทยในปริมาณที่เกินกำหนด ส่งผลให้ปฏิเสธการนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว นับเป็นการตรวจพบแคดเมียมในปลาหมึกบรรจุกระป๋องนำเข้าจากไทยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ได้จัดพิมพ์รายงานเกี่ยวกับระบบการเตือนภัยสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ยา และเวชภัณฑ์ (RAPEX) ประจำปี 2548 พบว่า จำนวนสินค้าอันตรายในอียูเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปี 2547 มีสินค้าไม่ปลอดภัย 388 รายการ แต่ในปี 2548 เพิ่มเป็น 701 รายการ หรือเกือบ 50% โดยในจำนวนนี้ประมาณ 25% เป็นสินค้าประเภทของเด็กเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us