Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 มีนาคม 2549
ซีเอ็มลดเสี่ยงเศรษฐกิจซบโฟกัสงานไมซ์-พิพิธภัณฑ์             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์, บมจ.
Organizer




ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์เผยภาวะการเมืองวุ่นวายและเศรษฐกิจขาลง ส่งผลให้ลูกค้าชะลองานและทำเงินหายวูบ 15 ล้านบาท พร้อมสู้ปัจจัยลบปีนี้ลุยงานใหญ่ 6 งานและกระจายความเสี่ยงสู่ตลาดไมซ์และกลุ่มพิพิธภัณฑ์ รวมถึงจัดอีเวนต์เองเป็นครั้งแรก ประเดิมปีนี้มี 3 งาน พร้อมเตรียมลุยงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ คาดยอดรายได้กว่า 80 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมสิ้นปีคาดโต 10% และฟันกำไรเพิ่ม 5%

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาะวะเศรษฐกิจไม่ดีและการเมืองที่ไม่สงบในช่วงนี้ส่งผลให้ลูกค้าเอกชนหลายรายของบริษัทฯเริ่มที่ชะลอการจัดงานลงในช่วงไตรมาส 1และ2นี้ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมนี้และเมษายนที่จะถึงคาดว่าจะมีการเลื่อนงานออกไปมาก ซึ่งเม็ดเงินส่วนที่หายไปนี้คิดเป็นมูลค่าเงินกว่า 15 ล้านบาท

ดังนั้นทางซีเอ็มฯพยายามสู้แรงต้านทานที่เกิดขึ้นด้วยการมุ่งเน้นความสนใจไปที่งานเมก้า อีเว้นท์หรืองานใหญ่ 5-6 งาน อาทิ ไตรมาสแรกงานตรุษจีนที่นครสวรรค์ และงานดีเอชแอล ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับธุรกิจไมซ์หรือการจัดประชุม คิดเป็นมูลค่ายอดรายได้ 60 ล้านบาท ส่วนไตรมาสสองมีงานมอเตอร์โชว์ที่จัดไปแล้วแต่ปิดยอดในช่วงนี้และงานโฮมโปร รวมถึงงานเฉลิมพระเกียรติในหลวงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และไตรมาส 3 มีงานไอซีที เอ็กซ์โป ซึ่งมียอดบิลลิ่ง 80 ล้านบาท และไตรมาสสุดท้ายมีงานใหญ่มหกรรมพืชสวนโลกฯ โดยคาดหมายว่ายอดรายได้ของการจัดงานจะมีประมาณ 80 ล้านบาท

ประกอบกับบริษัทฯให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ รวมถึงการจัดอีเวนท์ของตัวเอง ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 2-3 งาน อาทิ หัวหิน แจ๊สและมิสทีน อินเตอร์ฯ เป็นต้น โดยปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็นเอกชน 70% และรัฐบาล 30%

"ปีนี้บริษัทฯกางขาเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่นอย่างตลาดไมซ์และกลุ่มพิพิธภัณฑ์มากขึ้น โดยปีนี้ธุรกิจไมซ์มีอัตราการโตมากสุด จากการที่ได้ลูกค้าเอ็กซ์บิชั่นจากต่างประเทศ เช่น ดีเอชแอลหรือการประชุมนานาชาติที่มีการจัดประชุมในไทยปีนี้ หรืองานกลาสเทคที่ทางททท.ให้ซีเอ็มไปจัดงานที่ดูไบ สำหรับยอดรายได้ในกลุ่มธุรกิจไมซ์มีประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าโตเท่าตัวหากเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มพิพิธภัณฑ์ก็มีการเติบโตขึ้น เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์มีการรีโนเวตพิพิธภัณฑ์ใหม่ ภายใต้งบ 20 ล้านบาท เป็นต้น"

สำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่บริษัทฯได้รับมอบหมายจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และบริษัทรี้ด เทรดเดกซ์ จำกัดในการเป็นAppointed Service Provider หรือผู้ให้บริการที่ได้รับการแต่งตั้งของงานนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 49-31 ม.ค. 50 ที่เชียงใหม่

โดยความร่วมมือในงานนี้เป็นการผนึกกำลังของพันธมิตร 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทซีเอ็มฯจะดูแลรับผิดชอบในการประสานงานระหว่างผู้ร่วมแสดงงานกับคณะผู้จัดงาน รวมถึงดูแลบริหารพื้นที่จัดงาน ,บริษัทแลนด์สเคป แพลนนิ่งดูแลในส่วนการดำเนินงานด้านการผลิต เช่น การจัดสวน ,จัดหาพันธ์ไม้ และการผลิตการแสดงและนิทรรศการ ฯลฯ และบริษัทไรท์แมนและบริษัทเอ็กซ์คอนรับผิดชอบในส่วนการแสดง

พื้นที่การจัดงานพืชสวนโลกมีกว่า 470 ไร่ โดยการบริการจะแบ่งเป็น อาทิ สวนเฉลิมพระเกียรติฯประเภทองค์กร โดยขณะนี้มีองค์กรที่เข้าร่วมกว่า 21 ราย ได้แก่ บริษัทเครือโภคภัณฑ์ จำกัด , บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ฯลฯ และสวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งปัจจุบันมีต่างประเทศตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 30 ประเทศแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น,เนเธอร์แลนด์และสเปน

สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 10% จากปีที่แล้วที่ปิดยอดรายได้ 560 ล้านบาท และมีกำไรปีนี้เพิ่ม 5% หลังจากที่ปีที่แล้วบริษัทฯมีกำไร 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงถึง 40% ส่วนภาพรวมตลาดออร์กาไนซ์ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 2-3% ปีนี้คาดว่าตลาดรวมทรงตัวและไม่โต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ทุกฝ่ายอยู่ในช่วงลังเล รวมถึงการที่ลูกค้าจัดตั้งออร์กาไนซ์เองหรือจ้างซับพลายเออร์โดยตรง โดยปัจจุบันซีเอ็มฯมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ 6%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us