Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539
"หนี้ที่ต้องล้างด้วยกฎหมาย เป้าหมายคือแบงก์กรุงเทพ"             
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข ปิยาณี รุ่งรัตน์ธวัชชัย อนุสรา ทองอุไร
 

   
related stories

"ไพรเวท แบงกิ้ง ทำไมหละหลวมถึงขนาดนี้ ?"
"จินดา จรุงเจริญเวชช์ เมื่อนางสิงห์ต้องสะอื้น"
"ตั๋วบี/อี มหาภัย ระวังโง่-งก-เงิน"

   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
Loan




แม้ว่าแบงก์กรุงเทพจะแจ้งให้ สศก. จับนิตยาในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร แต่ลูกค้าตระหนักดีว่าการหาความจริงออกมาเพื่อเรียกเงินคืนจากนิตยาในคุกลาดยาว ก็เหมือนรีดเลือดจากปู

"เสียดายว่าจับนิตยาเร็วไปหน่อย ถ้าไม่ประโคมข่าวคงจะได้เงินคืนมากกว่านี้" หนึ่งในผู้เสียหายที่มีอยู่ 17 รายบ่นให้ฟังเหมือนที่เคยได้ยินจากลูกแชร์ชม้อยเปี๊ยบ

หนึ่งในลูกค้าธนบดีธนกิจรายใหญ่ที่เป็นเหยื่อนิตยาอย่างสุรางค์และนิพัทธ์ จุลละมณฑล มหาเศรษฐีสองแม่ลูกตระกูลจุลละมณฑลนี้เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ร่ำรวยจากธุรกิจการค้าเพชรพลอย และเป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่หลายแปลง ถือเป็นลูกค้าเก่าของแบงก์กรุงเทพมานาน จึงได้ว่าจ้างสำนักงานทนายความมืออาชีพอย่าง สำนักงาน ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน แจ้งข้อหาทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อบริษัท แบงก์กรุงเทพจำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 15 คน ฐานผิดสัญญาและละเมิดคดีดำที่ 5439/39

จำเลยได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำเลยที่ 1/นายประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ จำเลยที่ 2/นายชาตรี โสภณพานิช เป็นจำเลยที่ 3/นายดำรงค์ กฤษณามระ จำเลยที่ 4/นายวิระ รมยะรูป จำเลยที่ 5/นายชาญ โสภณพานิช จำเลยที่ 6/ยายปิติ สิทธิอำนวย จำเลยที่ 7/นายอมร จันทรสมบูรณ์ จำเลยที่ 8/นายเดชา ตุลนันท์ จำเลยที่ 9/นายชาติศิริ โสภณพานิช จำเลยที่ 10/นายธรรมนูญ เลากัยกุล จำเลยที่ 11/นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ จำเลยที่ 12/นางจินดา จรุงเจริญเวชช์ จำเลยที่ 13/นางนิตยา วิรัชพันธุ์ จำเลยที่ 14 และนายสุรพงษ์ ใจงามเป็นจำเลยที่ 15 ในข้อหาเรียกให้ชำระหนี้ ผิดสัญญา ละเมิดและเรียกค่าเสียหาย เป็นเงิน 46,950,530 บาท

เฉพาะลูกค้ารายนี้รายเดียวเจอฤทธิ์เดชของนิตยาไปเกือบ 50 ล้านบาท!

"การที่แบงก์กรุงเทพเป็นจำเลยที่ 1 เพราะว่าลูกค้าเอาเงินไปฝากหรือลงทุนที่แบงก์ เพราะเขาเชื่อในสถาบันและคุณนิตยาคือตัวแทนของแบงก์ ถ้าคุณนิตยาเป็นพนักงานบริษัทเล็ก ๆ ไม่มีทางที่ลูกค้าจะเซ็นเช็ค 20-30 ล้านให้ง่าย ๆ แต่เพราะแบงก์เปิดแผนกนี้ขึ้นมาและโฆษณาชวนเชื่อ ลูกค้าจึงเชื่อเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐานด้านจรรยาบรรณ และความจริงใจต่อไปที่จะกำหนดให้แบงก์ต้องมีความรับผิดชอบ และสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าได้ดีกว่านี้" เทวัญ อุทัยวัฒน์ หัวหน้าทีมทนายความที่ดูแลคดีนี้เล่าให้ฟัง

เคยมีคำพิพากษาตัวอย่างของศาลฎีกาที่ 222/2534 ที่ สุชิน จงนิรามัยสถิตเป็นโจทก์ฟ้องบริษัทเงินทุนสหไฟแนนซ์และพวกเป็นจำเลย ศาลชี้ขาดไว้ว่า ถ้าหากเกิดคดีความคล้ายคลึงกับคดีดังกล่าว ทางสถาบันการเงินที่เป็นต้นสังกัดของผู้กระทำผิดนั้นต้องรับผิดชอบเต็มที่ ในฐานะที่ผู้กระทำผิดเป็นตัวแทนนิติบุคคลนั้น ๆ

"เรื่องที่ลูกค้าไพรเวทแบงกิ้งบางคนจะฟ้องแบงก์นั้นถ้าเขามีหลักฐานจะฟ้องก็ยื่นมา สำหรับเรื่องนี้แบงก์ก็พยายามดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เพราะคดีโกงเป็นเรื่องระหว่างลูกค้ากับนิตยา" ชาตรี โสภณพนิช บิ๊กบอสส์แบงก์กรุงเทพตอบด้วยในหน้าเฉย ๆ ซึ่งประโยคนี้ได้เติมไฟบนเชื้อเพลิงที่ทำให้ลูกค้าฟ้องแบงก์ทั้งทางแพ่งและอาญา

"เรามองว่าทำไมเพ่งเล็งถึงคุณนิตยาคนเดียวเมื่อเหตุการณ์เกิดแล้ว วันรุ่งขึ้นแบงก์ไปแจ้งจับคุณนิตยา และบอกให้ผู้เสียหายคนอื่นไปเป็นพยานแจ้งจับคุณนิตยาตอนแรกแบงก์เองก็ขอเวลาระยะหนึ่งว่าจะตรวจสอบ ภายในและแก้ไขปัญหาเองก่อน ขอให้ลูกค้าใจเย็น ๆ ซึ่งเราก็ว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะธนาคารเองก็พยายามแสดงความรับผิดชอบก็คิดว่าเรื่องจะคลี่คลายได้" เทวัญให้ข้อสังเกต

หลายคนยังเชื่อว่านิตยายังมีความสามารถนำเงินมาคืนได้ หรือแบงก์อาจจะหาทางช่วยเหลือ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เศรษฐีผู้เสียหายในจำนวนนี้มีทั้งหมดประมาณ 17 ราย แต่ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ สศก. มีเพียง 3-4 รายเท่านั้น เช่น ปัญญา โกสินานนท์ ผู้จัดการสาขาของแบงก์กรุงเทพและรสริน ธนิตานันท์

อีกรายหนึ่งเป็นคุณยายวัย 85 ปีที่เข้าร้องทุกข์และแจ้งความกับ สศก.ว่าถูกนิตยา ปล้นเงียบจากกรณีตั๋วบี/อี ปลอมเช่นกัน มูลค่าความเสียหายของคุณยายก็ประมาณ 10 ล้านบาทเศษ ๆ

คุณยายผู้นี้ขอไม่เปิดเผยชื่อแต่เล่าให้ฟังสั้น ๆ ว่าเป็นลูกค้าของนิตยา ตามคำแนะนำของพวกพ้อง ตอนแรกไม่ทราบว่ามีการโกงกันเกิดขึ้นจนมาทราบข่าวประกาศจับนิตยา เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ถึงได้ชวนหลานเข้ามาแจ้งความกับ สศก. แต่ตอนนี้คุณยายก็ยังไม่ได้หาทนายเพื่อจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนิตยาแต่อย่างใดเพราะจะรอดูท่าทีก่อน

คดีนี้ดูเหมือนคดีฉ้อโกงธรรมดาเพราะปลอมตั๋วขายแล้วเชิดเงินหนีไปแต่ไม่ได้ทำให้แบงก์เสียหายด้านสินทรัพย์ แต่เผอิญความเป็นคนพิเศษที่ทั้งอิทธิพลและเงินฝากหรือสินทรัพย์เกิน 10 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่จบลงง่าย ๆ

"แต่การที่แบงก์เองเป็นบริษัทมหาชน จะนำเงินร้อยล้านบาทมาใช้หนี้ใครโดยพลการไม่ได้ อาจจะถูกผู้ถือหุ้นฟ้องร้องเอาได้ ยกเว้นว่าต้องให้เป็นคดีความก่อนซึ่งทางเราก็ได้ฟ้องคดีแพ่งไปแล้วเมื่อวันที่ 3 เม.ย. และในวันที่ 9 เม.ย. ก็ฟ้องคดีอาญาด้วย" เทวัญ อุทัยวัฒน์ เล่าให้ฟัง

"ทางลูกความเองก็ไม่ต้องการให้เป็นคดีความกัน เพียงแต่ต้องการเงินคืน อยากให้มาเคลียร์กัน เราเรียกร้องในแง่ของความรับผิดชอบของแบงก์มากกว่า จริง ๆ แล้วไม่อยากให้มาดูเรื่องกฎหมาย"

"นี่ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวต่อไปเราจะไว้ใจแบงก์ได้อย่างไรเพราะถ้ามีปัญหาแล้วแบงก์ไม่รับผิดชอบ การที่ลูกค้าเดินเข้าไปเพราะมีความเชื่อในตัวสถาบัน ไม่ใช่ในตัวคุณนิตยาเพราะถ้าคุณนิตยา อยู่ในไฟแนนซ์เล็ก ๆ ลูกค้าจะกล้ายอมเซ็นเช็คทีละ 20-30 ล้านหรือ เท่าที่ทราบคุณนิตยา ดูแลลูกค้าทั้งหมดกว่า 50 ราย ที่มีปัญหาราว ๆ 17 ราย ผมเชื่อว่าลูกค้าที่เหลือก็คงไม่มั่นใจแล้วว่าเงินของตนยังอยู่ครบดีหรือไม่" เทวัญทนายหนุ่มกล่าว

ความเสียหายมูลค่า 266 ล้านที่เกิดขึ้นกับลูกค้าไพรเวทแบงกิ้งครั้งนี้ ใครจะกล้าแอ่นอกรับผิดชอบ นิตยาซึ่งอยู่ในคุกจะมีความรับผิดชอบออกมาเคลียร์ตามที่รับปากกับลูกค้าหรือ

หลายคนตั้งเป้าไปที่แบงก์กรุงเทพ ซึ่งคงต้องรอให้คดีมีผลตัดสิน ก่อนที่จะผลีผลามตัดสินใจใด ๆ ไป

แต่ถึงวันนี้ แบงก์กรุงเทพขอซื้อเวลาและความรับผิดชอบไปก่อน !

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us