ประธานพาต้ามั่นใจ ประเทศไทยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวแกร่ง เหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองไม่ระคาย นักท่องเที่ยวยังคงเลือกประเทศไทย และประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิคในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ระบุ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการแพทย์ของไทยมีแนวโน้มดี สร้างเป็นจุดขายดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ว่า ททท. เปิดใจปีนี้งบจัดงานมหาสงกรานต์ใช้เพียง 24 ล้านบาท น้อยกว่าทุกปี เหตุททท. กระเป๋าแห้ง

นายปีเตอร์ เดอ ยอง ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค หรือ พาต้า (Pacific Asia Travel Association (PATA)) เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวโลก พบว่า นักท่องเที่ยวยังสนใจและมุ่งเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศในแถบเอเชีย และเอเชียแปซิฟิค ดังนั้นจึงเชื่อว่าปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานี้จึงยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย ยังเป็นเดสสิเนชั่นที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ที่จะเดินทางเข้ามาพักผ่อน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีการเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และยังเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ในหลายๆด้าน อาทิ ฮับทางการบิน เมดิคัลฮับแห่งเอเชีย และ ฮับ ออฟ สปา เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และการชุมนุมประท้วง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เชื่อว่าไม่กระทบกับการตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะแถบประเทศยุโรป และอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลัก เพราะการชุมนุมประท้วง หรือต่อต้าน จะมีให้เห็นเป็นข่าวอยู่ในทุกประเทศอยู่แล้ว แต่สำหรับประเทศไทย ภาพที่ถูกถ่ายทอดออกไปเป็นการชุมนุมเรียกร้องอย่างสงบ ไม่เหมือนบ้างประเทศที่การชุมนุมเป็นไปอย่างรุนแรง เช่น ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

**ชมไทยศักยภาพการท่องเที่ยวแกร่ง**

นายยอง กล่าวว่า ล่าสุด พาต้าได้เลือกประเทศไทย เป็นที่จัดประชุมประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปี ที่ 55 ของ การจัดประชุม ส่วนที่เลือกจัดในประเทศไทย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทั้งนี้เพราะเล็งเห็นความสะดวกในด้านการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะเดินทางมาจาก 44 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า 1,200 คน การประชุมดังกล่าว จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน 49 ที่ศูนย์การประชุม Pattaya Exhibition and Convention Hall (PEACH) โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา การประชุมปีนี้เนื้อหาการประชุมจะอยู่ภายใต้ธีม “ Changing Lifestyles-New Opportunities-PAC 2006”

โดยเนื้อหาการประชุมจะหยิบยกประเด็น การส่งเสริมการท่องเที่ยวในสินค้าที่เป็นเทรนด์ใหม่ของตลาด เจาะท่องเที่ยวแบบเฉพาะกลุ่ม หรือ ท่องเที่ยวที่เป็นนีชมาร์เก็ต เช่น การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (กลุ่มทัวร์ตรวจรักษาสุขภาพ) การท่องเที่ยวผจญภัย การท่องเที่ยวแบบอาสาสมัคร รวมถึงเรื่องของเทคโนโลยีเกี่ยวกับการท่องเที่ยว กลุ่มนี้จะมีการใช้จ่ายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวต่อครั้งจำนวนมาก

ทั้งนี้การนำประเด็นดังกล่าวมาหารือกันในการประชุมครั้งนี้ เพราะเห็นว่า ทิศทางของตลาดนักท่องเที่ยวและจุดประสงค์ของการเดินทาง มีหลายรูปแบบ เพราะความต้องการของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ในส่วนของประเทศไทย นับว่ามีศักยภาพ และความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มที่กล่าวมาได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาพยาบาล และการแพทย์ของไทย ที่มีโปรแกรมให้เลือกมากมาย เหมาะกับทั้งผู้ป่วย และญาติที่มาพร้อมกับผู้ป่วย ประกอบกับการบริการที่ดี และราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการเดินทางไปรักษาที่ประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ และ อเมริกา

“มองว่าตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มการรักษาและดูแลสุขภาพ ในประเทศไทย ยังเติบโตได้อีกมาก โรงพยาบาลในประเทศไทยมีความพร้อม และตื่นตัวที่จะสร้างธุรกิจ เพื่อมาขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้อยู่แล้ว ดังนั้น ความเป็น เมดิคัลฮับ ออฟเอเชีย ของไทยมีความเป็นไปได้สูงมาก “ นายยองกล่าว

**ททท.ซูบหมดงบจัดสงกรานต์***

ทางด้านนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การเลือกจังหวัดชลบุรีในการจัดงานประชุมประจำปีพาต้า ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 เพราะ เป็นเมืองที่เดินทางสะดวก และมีแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกิจกรรมต่างๆครบทุกรูปแบบ เพราะส่วนหนึ่งของการจัดประชุม จะมีกิจกรรม จัดทริปทัวร์ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม ออกไปชมสถานที่ท่องเที่ยวจริง ทั้งในจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา

การประชุมในลักษณะนี้จะเป็นเวทีของสมาชิก ซึ่งเป็นหน่วยงานองค์กรทางด้านธุรกิจสาขาอื่นๆในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ เพื่อลงมติร่วมกันในเรื่องต่าง อันจะเป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

นอกจากนั้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพาต้า ในปีนี้ ยังมีรัฐมนตรีท่องเที่ยวของประเทศสมาชิกตอบรับเข้าร่วมงานจาก 7 ประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเก๊า มัลดีฟ ปาปัวนิวกินี และรัฐเคลาลา ของอินเดีย ส่วนประเด็นที่จะหารือ ได้แก่ แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการตลาด ผลวิจัยในโครงการต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

นางจุฑามาศ กล่าวถึงการส่งการท่องเที่ยวของ ททท.ว่า ล่าสุด กำลังเตรียมการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 เมษายน ศกนี้ โดยปีนี้ใช้งบประมาณ 24 ล้านบาท น้อยกว่า ทุกปี เพราะงบประมาณมีจำกัด โดยจะแบ่งเป็น การจัดงานสงกรานต์ 4 ภาค ใน 4 จังหวัดๆละ 1 ล้านบาท ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ อยุธยา และ นครราชสีมา ส่วน อีก 20 ล้านบาท เป็นการจัดงานในกรุงเทพมหานคร ไฮไลท์ จะอยู่ที่สนามหลวง จัดเป็นเมืองน้ำ ภายใต้ธีม การท่องเที่ยวแห่งสายน้ำ คาดว่า ระหว่าง 7 วันจัดงาน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางทั่วประเทศราว 2 ล้านคน ในที่นี้เป็นกลุ่มคนไทยกว่า 70% อย่างไรก็ตาม เฉพาะเดือนเมษายนปกติ ประเทศไทยจะมีรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวตลอดทั้งเดือนราว 1.5-2 หมื่นล้านบาท