ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ รุกธุรกิจในประเทศจีน ตั้งเป้านำกระแสเงินสดลงทุนเพิ่มอีก 1.2 พันล้านบาท เหตุตุ้นทุนการผลิตต่ำ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ หนุนรายได้ปี 2549 โตจากปีก่อนได้ถึง 15% พร้อมเมินกระแสการเมืองที่คาดการณ์กระทบระยะสั้นและสามารถคลี่คลายได้ในระยะเวลาอันสั้น ด้านบล.สินเอเซีย แนะซื้อ อนาคตรุ่งสอดรับภาพรวมอุตสาหกรรม ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 33.07 บาท

นายอิศรา ศิวะกุล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA เปิดเผยว่า ในปี 2549 นี้ บริษัทมีแผนขยายการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศจีน เพราะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำทำให้สินค้าของบริษัทสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้ โดยบริษัทตั้งงบลงทุนทั้งปีไว้ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งมีแหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดของบริษัทเองที่ปัจจุบันมีอยู่ 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับผลประกอบการนั้น บริษัทคาดการณ์รายได้ในปีนี้จะสามารถขยายตัวได้อีก 10-15% จากปี 2548 ที่มีรายได้จากการขาย 12,136 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจ PCBA ในปีนี้ที่น่าจะโตได้ในอัตรา 20-30% และการผลิตชิ้นส่วน IC ที่น่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10% ซึ่งจะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าการเติบโตของธุรกิจ

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม อาทิ การผลิตเซ็นเซอร์ซึ่งใช้กับธุรกิจผักผลไม้ รถยนต์ ยา เวชกรรม ภาพยนตร์ เครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตปีละ 20% ขณะที่การผลิต RFID ซึ่งในอนาคตจะมาทดแทนการใช้บาร์โค๊ดในห้างสรรพสินค้า

"บริษัทยึดนโยบายการผลิตสินค้าที่อยู่ในความต้องการของตลาด ซึ่งเป้าหมายธุรกิจในปีนี้การเติบโตของบริษัทจะสอดคล้องไปกับความต้องการของตลาด น่าจะโตได้ในอัตรา 10-15% ซึ่งในไตรมาสที่ 1 ความต้องการของ PCBA และ IC ยังสูงขึ้น" นายอิสรา กล่าว

ส่วนปัญหาด้านการเมืองที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้นั้น นายอิศรา กล่าวว่า ในระยะสั้นปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นคงยังไมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของบริษัท เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังอยู่ในความสงบและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่งแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางสนามบินและการท่าเรือ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมทั้งมั่นใจว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะไม่บานปลายและสงบได้ในเร็ววันนี้

"ผมเชื่อว่า ในที่สุดการแก้ปัญหาทางการเมือง ทุกฝ่ายจะหาทางออกได้ในระยะอันสั้น และสถานการณ์การเมืองจะสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น"

นายอิศรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีทิศทางดีขึ้น โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตราหุ้นละ 1.40 บาท แบ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.50 บาท และเงินปันผลสำหรับงวดสิ้นปีอกี 0.90 บาท คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในสัดส่วน 50% ของกำไรสุทธิ จากนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทไม่ต่ำกว่า 30-50% ของกำไรสุทธิ และถือเป็นการจ่ายเงินปันผลสูงสุดตั้งแต่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,061.51 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.58 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,835.04 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.31 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 226.47 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.34%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สินเอเซีย จำกัด ประเมินว่า ในปี 2549 นี้ HANA น่าจะมีอัตตราการขยายตัวของกำไรสุทธิจากปีก่อนประมาณ 18% โดยได้รับปัจจัยบวกจากภาวะอุตสาหกรรมที่ยังสดใส รวมทั้ง HANA ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ บวกกับฐานะการเงินที่มั่นคง คือ ไม่มีหนี้ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ยจ่ายและสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 2549 จะสามารถจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นหุ้นละ 1.63 บาท ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 33.07 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้ (28 มี.ค.) อยู่ที่ 30 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขายรวม 46.18 ล้านบาท