Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 มีนาคม 2549
P&Gปลุกยิลเลตต์-แฟ้บก.ค.อัด1.6พันล.สวนทางเมือง             

 


   
www resources

P&G Homepage

   
search resources

พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย), บจก.
Marketing
Personal cares




พีแอนด์จี อัดงบ 250 ล้านบาท ลั่นกลองรบ2ธุรกิจใหม่ผงซักฟอก-ยิลเลตต์เดือนกรกฎาคม ปูพรมปั้น แฟ้บ-เพค ลงสมรภูมิผงซักฟอกมูลค่ากว่า 1หมื่นล้าน ชูนวัตกรรมถล่มบรีส ยันการเมืองไม่กระทบแผนลงทุน 3 ปี 3,500 ล้านบาท ล่าสุดอัดฉีดเม็ดเงิน 1,600 ล้านบาท ปรับปรุงโรงงาน-งบตลาดรวม สิ้นปีผลประกอบการโตสวนกระแสเป็นตัวเลขสองหลัก ส่วนธุรกิจใหม่ปีแรกกวาดรายได้ 25% จากรายได้รวม

นางสาวปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์จี ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเข้าไปซื้อตราสินค้าผลิตภัณฑ์ซัก-ถนอมผ้า 4 แบรนด์ จากคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ประกอบด้วย แฟ้บ เพค โทรจัน ไดนาโม เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และควบรวมกิจการทั่วโลกระหว่างพีแอนด์จีกับยิลเลตต์ ประกอบด้วย 4 แบรนด์ ได้แก่ ยิลเลตต์ ออรัล-บี ดูราเซลล์ และบราว์น ส่งผลให้พีแอนด์จีมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยในพอร์ต โฟลิโอมีตราสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 13 แบรนด์ เป็น 19 แบรนด์

โดยนโยบายกลุ่มผลิตภัณฑ์ซัก-ถนอมผ้า และภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ยิลเลตต์ จะเริ่มดำเนินการตลาดในเชิงรุกในเดือนกรกฎาคมนี้ ใช้งบการตลาด 25% จากงบการตลาดโดยรวม 500-1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 125-250 ล้านบาท โดยในกลุ่มซักและถนอมผ้าจะเน้นสินค้าเรือธง 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ แฟ้บ และเพค บริษัทจะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ทำตลาด หลังจากตกอยู่ภายใต้คอลเกตฯสินค้าทั้งสองแบรนด์ไม่ได้มีการทำตลาดหรือนวัตกรรมใหม่ๆมากนัก ส่งผลให้ปัจจุบันแฟ้บมีส่วนแบ่ง 7% และเพค 1% จากมูลค่าตลาดผงซักฟอก 11,300 ล้านบาท

“ปัจจุบันนี้เรามีโรงงานผลิตผงซักฟอกภายใต้แบรนด์ไทด์ 3 แห่ง คือ เวียดนาม อินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้ผงซักฟอกแฟ้บและเพคได้จ้างบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟเป็นผู้ผลิต ส่วนแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตผงซักฟอกไทยหรือไม่ คงจะต้องพิจารณาถึงรายละเอียดกันอีกครั้ง”

ส่วนกลุ่มยิลเลตต์ ซึ่งที่ผ่านมามีความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและการทำตลาดอยู่แล้ว ส่งผลให้ปีที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์ใบและมีดโกนหนวด รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ในช่องปากภายใต้แบรนด์ออรัล-บีเพิ่มขึ้นในอัตราเกือบ 20% ขณะที่ยอดขายของยิลเลตต์ ประเทศไทย เพิ่มขึ้น 7% โดยปีนี้บริษัทเน้นออกนวัตกรรมสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้เตรียมปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มบุคลากร รวมทั้งกำลังพิจารณาเพิ่มศูนย์จัดจำหน่าย(SDO)จากปัจจุบันมี 7 แห่ง แบ่งเป็น กทม. 1 แห่ง ต่างจังหวัด 6 แห่ง เพื่อรับธุรกิจใหม่ 2 ขาที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้ของกลุ่มซัก-ถนอมผ้า และยิลเลตต์คิดเป็น 25% ของรายได้รวม

**พิษการเมืองไม่กระทบลงทุน3.5พันล.**

แนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปีนี้มีอัตราการเติบโต 5% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยสถานการณ์การเมืองประเทศไทยที่คลุมเครือในขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดอุปโภคบริโภค ในไตรมาสแรกของปีนี้ภาวะตลาดยังมีอัตราการเติบโตคงที่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทยังคงดำเนินแผนการลงทุน 3 ปี (2548-2550)อย่างต่อเนื่องประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยปีนี้ใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท ในการปรับปรุงด้านโรงงาน ซื้อเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ซื้อคอมพิวเตอร์พกพา 200 เครื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการกระจายสินค้าและการขาย

“ปีนี้การแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค การทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมมีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภค ส่วนด้านการชุมนุมในย่านใจกลางเมืองคาดว่ายอดขายสินค้าอาจจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนักในช่วง 1-2 วันนี้”

**ชู 3กลยุทธ์ดันรายได้โตสองหลัก**

นางสาวปริญดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินธุรกิจต่อไปข้างหน้าพีแอนด์จีจะเน้น 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย ประการแรก การเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคไทยด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ประการที่สอง มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ภายใต้การใช้กลยุทธ์ราคาโดยเฉพาะกลุ่มแชมพู และประการสุดท้าย การดึงดูดบุคลากรที่มีคุณสมบัติเข้าสู่องค์กร

นอกจากบริษัทจะเน้น 2 ธุรกิจใหม่ ในปีนี้ยังคงทำตลาดในเชิงรุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผม –กลุ่มผลิตภัณฑ์ถนอมผิว โดยเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 28.8% เป็น 31% จากมูลค่าตลาด 9,800 ล้านบาท แบ่งเป็น แพนทีนเพิ่มจาก 12%เป็น 12.1% รีจอยส์ จาก8.5% เป็น 9% เฮดแอนด์โชว์เดอร์ 8.3% เป็น 8.4% แคล์รอล เฮอร์บัลจาก 1.5% เป็น 1.7%

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ถนอมผิวหน้ามีส่วนแบ่ง 34% จากมูลค่า 5,400 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโต 20% ส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท จากการส่งออกกว่า 20 ประเทศ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us