สมาคมการตลาดฯ ระบุการเมืองพ่นพิษฉุดยอดขายภาคธุรกิจ 2 เดือนทรุด ผู้ประกอบการแห่ปรับกลยุทธ์ลดความเสี่ยง อัดแคมเปญระยะสั้น “เรดบูล” ชี้นักการตลาดหั่นงบไม่กล้าทำตลาด กรณีศึกษาดูไบสร้างแบรนด์ประเทศปลอดพิษการเมือง ดันเศรษฐกิจโต10% ชี้จุดอ่อนไทยมีทรัพยากรท่องเที่ยวที่ดี แต่อ่อนสร้างแบรนด์ ประชากรของประเทศหาจุดแข็งไม่เจอ

นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ยังคลุมเครือ ได้ส่งผลกระทบในแง่จิตวิทยาของผู้บริโภค ก่อให้เกิดความเครียดไม่อยากออกมาจับจ่ายใช้สอย ทั้งๆที่ก็ยังมีกำลังซื้ออยู่ สังเกตุได้จากตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ยอดขายทุกภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น อุปโภคบริโภครวมไปถึงภาคอุตสาหกรรม ขึ้นอยู่ว่ากระทบมากหรือน้อย ขณะที่เมื่อรวมกับภาวะราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเริ่มลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2548

ในแง่ของการทำตลาดในสถานการณ์นี้ คงต้องเปลี่ยนไปจากเดิม คือ ผู้ประกอบการส่วนมากจะหันมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบ ลด แลก แจก แถม ในช่วงระยะสั้นๆเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของงบจัดกิจกรรมแคมเปญใหญ่คงจะมีให้เห็นน้อยลง เนื่องจากต้องใช้งบการตลาดเป็นจำนวนมาก และไม่รู้ว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีมากน้อยแค่ไหน ขณะที่กลยุทธ์หนึ่งที่คาดว่าจะใช้ได้ผล คือ การเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ ทำให้ผู้บริโภครู้ตื่นเต้นกับสินค้า

“หากสถานการณ์ยืดเยื้อ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตอนนี้เท่าที่สอบถามถึงบริษัทต่างๆในฐานะเป็นนายกสมาคมการตลาดฯ บริษัทต่างๆค่อนข้างมีปัญหา ล่าสุดอย่างงานสัมนาการตลาดแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่ 2006 World Marketing Conference เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 49 บริษัทต่างๆส่งพนักงานเข้าฟังเพียง 700 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับงานครั้งก่อนราว 1,000 คน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทำให้บริษัทพยายามตัดงบในส่วนต่างๆที่ไม่ค่อยจำเป็นออกไป”

**ลดความเสี่ยงหั่นงบตลาดลง**

นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เรดบลูเอ็กซ์ตร้า บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเรดบูลฯ เปิดเผยว่า การทำตลาดในสถานการณ์ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนแรงขณะนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทุ่มงบการตลาดมากนัก ทั้งนี้เพราะกลัวด้านความเสี่ยง ส่งผลให้กิจกรรมการตลาดในช่วงนี้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ด้านการแจกสินค้าตัวอย่างก็ต้องลดลง เนื่องจากต้องทำอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นสินค้าที่สนับสนุนม็อบฝ่ายตรงข้ามกับภาครัฐบาล

ขณะนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคชะงักงัน สืบเนื่องจากปัจจัยด้านการเมือง ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ได้รับผลกระทบดังกล่าว ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังถือว่ายังน้อยอยู่ อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการเมืองขณะนี้ ได้แพร่ขยายไปสู่ผู้บริโภคในต่างจังหวัดบ้างแล้ว แต่หลักๆคือผู้บริโภคในกรุงเทพฯจะกระทบมากกว่า

ส่วนนายกานต์ ตระกูลฮุน ประธานบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบทางการเมืองบ้าง ขณะที่โครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลนั้น ไม่ได้รับผลกระทบเพราะจะเริ่มก่อสร้างในต้นปีหน้า นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างธุรกิจปิโตรเคมี มูลค่าการลงทุน 6 หมื่นล้านที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยส่วนแรก มูลค่าการลงทุน 4. 4 หมื่นล้านบาท จะลงทุนร่วมกับบริษัทดาวน์ ปิโตรเคมีคัล โดยที่บริษัทมีสัดส่วนการลงทุน 2 ใน 3 ส่วนเงินลงทุนอีก 1.6 หมื่นล้านบาทบริษัทจะลงทุนเอง 100% เพราะเห็นว่าธุรกิจปิโตรเคมีกัลเติบโตได้ดีในอัตรา 7-8% ต่อปี

**สัมมนาสมาคมการตลาดฯ**

(วานนี้) 27 มี.ค.49 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่การตลาดโลก 2006 World Marketing Confercnce ระดมผู้บริหาร CEO ระดับโลก เผยกลยุทธ์การตลาดระดับโลกพร้อมความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ระดับอินเตอร์

นายอุตตม สาวนายน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลักของการตลาดพรรครัฐบาลไทยรักไทยนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศช่วงก่อตั้งพรรคปีพ.ศ. 2540 และช่วงที่พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 ก็ได้ยึดหลักการตลาดมาใช้นำมาพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การส่งออก ขณะที่สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ การสร้างแบรนด์ไทยผ่านหลัก 4F FUN, FRIENDLY เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ สร้างขีดความสามารถทางดานการแข่งขันให้กับการท่องเที่ยว สินค้าโอท็อป

“ดูไบบูมปท.ต้องปลอดการเมือง”

นายคาลิด อัล คาสซิม รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการวางแผนและพัฒนา กระทรวงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจแห่งดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า การสร้างแบรนด์ที่สำคัญ จะต้องสร้างรัฐบาลปลอดความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากว่าภาพลักษณ์ในตะวันออกกลางมีส่วนเกี่ยวข้องภัยก่อการร้าย ดังนั้นต้องสร้างเมืองธุรกิจที่สามารถให้ความร่วมมือกับผู้ลงทุนจากต่างประเทศและผู้ประกอบการในประเทศ ส่วนภาครัฐจะต้องสร้างภาวะการค้าการลงทุนให้เหมาะสมกับการแข่งขันและดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยนโยบายการเปิดการค้าเสรีตามกรอบขององค์การการค้าโลกและการค้าแบบเอฟทีเอ การเปิดเสรีการบิน เป็นต้น โดยปัจจุบันเศรษฐกิจดูไบมีอัตราการเติบโต 10%

**จุดอ่อนไทยขาดการสร้างแบรนด์**

นาย David Haigh Chief Executive officer Band Finance กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะมีสถานการณ์การเมืองที่คลุมเครือ แต่ว่าเชื่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก็ยังมีศักยภาพ โดยเฉพาะจุดแข็งด้านการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันไทยยังมีจุดอ่อนด้านการสร้างแบรนด์ค่อนข้างมาก ทั้งการขาดงบประมาณในการทำตลาดเมื่อเทียบกับอินเดียมีการสร้างแบรนด์ที่ดีในด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ไทยยังมีจุดด้อยด้านทรัพยากรบุคคลที่หาจุดยืนไม่เจอ เช่น สิงคโปร์จะโปรโมตคนด้านการมีศึกษาสูง เยอรมันโดดเด่นวิศวกร ส่วนจีนด้านโรงงาน

ในส่วนของภาคเอกชนในประเทศไทย นักการตลาดไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของการวิเคราะห์ โดยเฉพาะด้านการลงทุนนักการตลาดจะต้องมีถึง 50% โดยนักการตลาดไทยส่วนใหญ่ จะใส่ใจการสร้างยอดขายทำต้องอย่างไร การสื่อสารหรือการทำโฆษณาทำอย่างไรให้โดนใจมากกว่า