"ไทยเบฟเวอเรจ" โชว์กำไรสุทธิงวดปี 2548 กว่าหมื่นล้านบาท พร้อมใจป้ำปันผลให้ผู้ถือหุ้น 0.24 บาทต่อหุ้นรวมแล้วกว่า 5.2 พันล้านบาท เส้นทางโล่งเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.สิงคโปร์ หลังบอร์ดไฟเขียว

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อรองรับผลประกอบการของบริษัทงวดปี 2548 ว่า บมจ.ไทยเบฟเวอเรจและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานในปี 2548 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 10,409.37 ล้านบาท หรือ 0.47 บาทต่อหุ้น ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,417.47 ล้านบาท หรือ 0.47 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้จัดสรรผลกำไรจากการดำเนินงานปี 2548 เป็นเงินปันผลรวมทั้งสิน 5,280 ล้านบาท หรือ 0.24 บาทต่อหุ้น

สำหรับการจัดประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้เป็นผลมาจากมติคณะกรรมการของบริษัท ซึ่งได้มีการเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติงบดุล งบดุลรวม งบกำไรขาดทุนรวม สำหรับงวดปี 2548 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2548 ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการของบริษัทแล้ว

นายเกษมสันต์ วีระกุล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงข้อมูลที่เตรียมจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต.ประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 22,000 ล้านบาท เป็น 29,000 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 1 บาท ต่อหุ้น โดยจะเป็นการแบ่งจัดสรรให้ประชาชนทั่วไปไม่เกิน 6,000 ล้านหุ้นและ 1,000 ล้านหุ้นรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก่อนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามที่ยื่นไฟลิ่งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อันดับ 1. Risen Mark Enterprise Ltd. สัดส่วน 25.17% อันดับ 2. Good Show Holdings Limited สัดส่วน 19.07% อันดับ 3. นายเจริญ สิริวัฒนภักดีสัดส่วน 14.35% อันดับ 4. คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี สัดส่วน 14.35% อันดับ 5. Golden Capital (Singapoer) Limited สัดส่วน 4.60%

อนึ่ง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เตรียมที่จะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล หรือ ไฟลิ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ของประเทศสิงคโปร์เพื่อขอเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์หลังจากเกิดกระแสการต่อต้านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มผู้คัดค้านระบุว่าธุรกิจที่บริษัทดำเนินการเป็นธุรกิจทื่สร้างโทษต่อสังคม

ทั้งนี้ ผู้บริหารบริษัทเปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทยังไม่สามารถยื่นไฟลิ่งต่อตลาดหุ้นสิงคโปร์ได้ เนื่องจากต้องการรองบทางการเงินผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 2548 ให้เรียบร้อยเพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนที่สนใจจะเข้าลงทุนกับหลักทรัพย์ของบริษัทได้ใช้พิจารณาประกอบการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ที่เป็นผู้ชักชวนบมจ.ไทยเบฟเวอเรจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย กล่าว่าหากบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ สามารถจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศได้หลังจากที่ไม่สามารถเข้าระดมทุนมในประเทศได้จะแสดงความรับผิดชอบจากกรณีดังกล่าวด้วยการลาออกจากตำแหน่ง