Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 มีนาคม 2549
แอสคอนฯเล็งซื้อบ.ก่อสร้างหนุนงานรัฐฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอสคอน คอนสตรัคชั่น

   
search resources

Construction
แอสคอน คอนสตรัคชั่น, บมจ.




"แอสคอนฯ" เล็งเทกโอเวอร์ 2 บริษัทก่อสร้างจดทะเบียนชั้น1 ของงานภาครัฐฯ หวังเพิ่มศักยภาพเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่กรมทางหลวง-กทม. เผย3 แนวทางประมูลบิ๊กเมกะโปรเจกต์ "ร่วมทุน - ประมูลงานเอง-รับช่วงงานก่อสร้าง" ตั้งเป้ารายได้ปี49 เติบโต50% เพิ่มสต็อกงาน 3,000 ล้านบาท รักษาระดับการขยายตัว แจงสัดส่วนรายได้ปีนี้งานเอกชนสูงโด่ง 85% พร้อมเจรจาจอยท์เวนเจอร์บริษัทต่างประเทศร่วมประมูลรถไฟฟ้าของรัฐบาล

นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะซื้อใบอนุญาติ(ไลน์เซนต์)บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจดทะเบียนชั้นหนึ่งในการรับเหมาก่อสร้างโครงการของภาครัฐฯ ทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานครและกรมทางหลวง เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับงานก่อสร้างของหน่วยงานรัฐบาล โดยในช่วงที่ผ่านมา รายได้หลักของบริษัทมาจากการรับงานเฉพาะในส่วนของภาคเอกชนทั้ง 100% เนื่องจากในการเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ บริษัทยังมีข้อจำกัดในเรื่องคุณสมบัติการผ่านงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ และระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการพิจารณาร่วมประมูลงานขนาดใหญ่ของหน่วยงานราชการ

โดยขณะนี้ บริษัทอยู่ในช่วงการเจรจาซื้อใบอนุญาติบริษัทก่อสร้างอยู่ 2-3 บริษัท คาดว่าจะเข้าซื้อกิจการเพียง 2 บาทจากที่เจรจาอยู่ 3 บริษัท โดยอยู่ระหว่างเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทเหล่านี้ คาดว่าจะสามารถรู้ผลชัดเจนภายในเดือน2เดือนข้างหน้า ใช้งบในการเข้าไปซื้อกิจการประมาณ 10-20 ล้านบาทต่อราย ซึ่งหากสามารถเข้าไปซื้อกิจการได้แล้ว จะมีการปรับโครงสร้างการบริหารและการเพิ่มทุนใหม่เข้าไป เพื่อให้เข้าเกณฑ์และข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับแผนธุรกิจในปี 49 ตั้งเป้าว่าจะรักษาระดับอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 50% หรือมีรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 1,200-1,500 ล้านบาท จากเดิมในปี2548 บริษัทรายได้รวม 825 ล้านบาท จากมูลค่างานในมือรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งการจะมีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ได้นั้น บริษัทจะต้องมีงานในมือต่อปีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มงานในมือ ทางบริษัทต้องเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลในอนาคตและรวมถึงงานในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีสัดส่วนรายได้มา 3 ส่วน ประกอบด้วย งานก่อสร้างโครงการภาครัฐฯ 15% โครงการก่อสร้างภาคเอกชน 85% แบ่งออกเป็น งานก่อสร้างอาคารสูง 70% และงานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม 30% อย่างไรก็ตาม นโยบายและแนวทางในการรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลและเอกชนที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการก่อสร้างสูงๆ หรือมีมูลค่าโครงการสูงๆ ซึ่งส่วนนี้บริษัทยังไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประมูลได้นั้น บริษัทจะใช้วิธีร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตร เพื่อเข้าร่วมงานประมูลโครงการที่มีมูลค่าสูงๆ ส่วนโครงการใดที่บริษัทมีศักยภาพสามารถร่วมประมูลได้จะดำเนินการเข้าประมูลงานเอง สำหรับวิธีการเข้าไปรับช่วงงานก่อสร้างต่อทางบริษัทจะพิจารณาใช้เป็นวิธีสุดท้าย

นายพัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายในการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้บริษัทที่ตั้งเป้าไว้นั้น จะเน้นใน 3 เรื่องหลักๆ ประกอบด้วย 1.การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของมูลค่างานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต 2.เงินทุนซึ่งหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้น เพื่อสามารถรองรับการขยายตัวของงานในอนาคต ซึ่งหากต้องการระดมทุนเพิ่มก็สามารถทำได้ และ 3.การร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งขณะนี้บริษัทมีกลุ่มตระกูลวิไลลักษณ์ (เจ้าของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ) ซึ่งถือเป็นกลุ่มทุนที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในธุรกิจและเครือข่ายด้านไอที สามารถช่วยขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับภาพรวมการก่อสร้างนั้น ในส่วนของโครงการภาครัฐฯ นั้น ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์ ) ซึ่งมูลค่างานก่อสร้างกว่า 4 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10% ส่วนงานก่อสร้างในภาคเอกชนก็เช่นกัน อัตราการก่อสร้างโครงการอาคารสูงยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยแผนในการร่วมประมูลงานโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลนั้นขณะนี้ บริษัทยังอยู่ในขั้นเจรจาร่วมกับบริษัทต่างชาติ อาทิ ประเทศเยอรมนี, แคนาดา ,มาเลเซีย เพื่อมาร่วมประมูลโครงการของรัฐในเส้นทางที่คู่แข่งให้ความสนใจไม่มาก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีงานในมืออยู่ 2,000 กว่าล้านบาท โดยเป็นงานก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมของ บริษัท ณุศาศิริ กรุ๊ป จำกัด ,งานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่จังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับงานก่อสร้างอาคารชุดอีก 4 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีงานในมือตามแผนที่วางไว้ ส่วนงานโครงการอาคารสูงที่บริษัทได้มีการยื่นประมูลแล้ว มีอยู่หลายโครงการโดยมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะเซ็นสัญญางานสัมปทานในการปรับปรุงถนนในประเทศกัมพูชา ในเดือนเม.ย.นี้ อายุสัญญา 30 ปี และงานการก่อสร้างสาธารณูปโภคในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งบริษัทจะร่วมกับกลุ่มบริษัทสามารถฯเข้าร่วมงานประมูลการติดตั้งระบบ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us