บรรยากาศของสปาในเรือนไม้เก่าหลังงาม บ้านปวโรฬาร ริมทางเดิน ดึงดูดให้ผู้คนเข้าไปผ่อนคลายจากอากาศอันร้อนอบอ้าว

ทำเลเป็นจุดขายแห่งหนึ่งของรอยัล แนเชอรัล สปา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสี่แยกอังรีดูนังต์ ตรงข้ามสถานเสาวภา โดยโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับบนเช่นเดียวกับสปาในโรงแรมในย่านนั้นและสูงกว่าสปาส่วนใหญ่บนถนนสีลม

ตัวบ้านปวโรฬารเป็นสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองหลวง มีอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปี เป็นสิ่งหนึ่งที่มีเรื่องเล่าน่าสนใจ เดิมอาคารนี้เป็นพื้นที่ของโรงเรียนปวโรฬาร ซึ่งมีรูปทรงการก่อสร้างที่เลียนแบบโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

ปัจจุบันด้านนอกอาคารจะเห็นเป็นเรือนไม้สีเขียวอ่อน ตัดขอบด้วยสีเขียวแก่ด้านหน้ามีน้ำตกเล็กๆ เพื่อสร้างความรู้สึกสบายๆ ส่วนภายในคงโครงสร้างเดิมไว้ทั้งหมด และตกแต่งด้วยบรรยากาศใหม่แบบไทยประยุกต์ ชั้นล่างเป็นส่วนรับรองแขก ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นห้องสปาชายหญิง แยกกันคนละฝั่ง เป็นห้องระดับวีไอพี 3 ห้อง และห้อง deluxe 15 ห้อง

รอยัล แนเชอรัล สปา เพิ่งเปิดบริการเมื่อปลายปี 2548 ที่ผ่านมา ดังนั้น อำนวย พรสุขสว่าง และนคุณ น้อยติ 2 หุ้นส่วนคนสำคัญ จึงต้องคิดค้นจุดบริการที่แตกต่างจากที่อื่นๆ และสรุปลงที่ต้องเป็นสปาที่มีทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพร่างกายตลอดเรือนร่าง ด้วยศาสตร์จากการนวดและโปรแกรมบำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย

ท่ามกลางโปรแกรมต่างๆ มากมาย ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่โปรแกรม Royal Natural Sense of Angel City เป็นโปรแกรมที่ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

เริ่มต้นด้วยพนักงานจะพาลูกค้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ล้างเท้าด้วยน้ำที่แช่ด้วยตะไคร้ ใบมะกรูด เพื่อดับกลิ่น มีเกลือขัดเบาๆ ก่อนเข้าห้องสตรีม เพื่อเปิดรูขุมขนประมาณ 15 นาที ต่อด้วยขัดผิวไปทั่วตัวด้วยเกลือกับขิง น้ำผึ้งกับมะขาม หรือการขัดผิวด้วยงาดำแล้วแต่ลูกค้าเลือก แต่ที่กำลังเป็นนางเอกยอดนิยม ตอนนี้ก็คือ การขัดผิวด้วยข้าวหอมประมาณครึ่งชั่วโมง ต่อด้วยการอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด แล้วมาเริ่มต้นใหม่ด้วยการพอกตัวด้วยว่านหางจระเข้ หรือสมุนไพรตัวอื่นๆ ล้างตัวอีกครั้ง ก่อนต่อด้วยนวดน้ำมัน สไตล์ Royal Natural Signature Massage ซึ่งเป็นการผสมผสานจุดเด่นของการนวดกดจุดแบบไทยและการนวดน้ำมันมารวมกัน ต่อจากนั้นลงไปแช่น้ำนมในอ่าง และจบด้วยโปรแกรมทรีตเมนต์ผิวหน้า

การนวดแบบสปอร์ต ซึ่งใช้แรงนวดแบบหนักสำหรับนักกีฬา โดยใช้ฝ่ามือ ท่อนแขน ข้อศอก มาช่วยออกแรงในการนวด ก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม

ผ่อนคลายสบายเนื้อตัวพร้อมด้วยผิวหน้าที่สะอาดและได้รับการบำรุงแล้ว อย่าลืมแวะจ่ายเงินเฉพาะโปรแกรมนี้ราคา 5,000 บาท หากมีเวลาน้อยกว่านี้มีโปรแกรมมากมายให้เลือก ในราคาตั้งแต่ 1,200 บาทขึ้นไป หรือหากจะเลือกนวดเฉพาะขาและเท้า บ่า หัวไหล่ หรือเฉพาะศีรษะราคาตั้งแต่ 500-1,000 บาท ส่วนทรีตเมนต์หน้าประมาณ 1,800 บาท

เป็นสปาแห่งใหม่ที่กำลังคอยต้อนรับผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ