Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2549
เสียงขลุ่ยทิพย์             
โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
 


   
search resources

Auctions
Art
Bangkok Art Auction
เขียน ยิ้มศิริ




ก่อนวันงานเปิดประมูลงานศิลปะของบริษัท Bangkok Art Auction บริษัทได้จัดให้มี Exclusive Press Preview ขึ้นที่ชั้น 7 อาคารเพ็ญชาติ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บงานศิลปะ ก่อนย้ายมาจัดประมูลในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2549

ในวันนั้นนอกจากเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ชมผลงานอย่างใกล้ชิดแล้ว ไฮไลต์ของงานคือได้เชิญขนงนุช ยิ้มศิริ บุตรสาวคนโตของอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ มาทุบโมผลงานเสียงขลุ่ยทิพย์ ซึ่งเป็นผลงานประติมากรรมที่มีชื่อเสียงของบิดา ต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย

น่าเสียดายนักที่วันนั้นมีนักข่าวมาร่วมงานน้อยมาก ทั้งที่การทุบโมของเขียน ยิ้มศิริ ครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างมาก และไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยนักในแวดวงศิลปะของไทย เมื่องานเสียงขลุ่ยทิพย์ Edition ที่ 9 ซึ่งขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา ราคายังสูงถึง 8 แสนบาท และราคาขั้นต้นของงานชิ้นที่ 8/9 ที่นำมาประมูลเริ่มที่ 8 แสนบาท

"เป็นความตั้งใจที่จะให้งานของคุณพ่อมีแค่ 9 ชิ้น ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำขายครบไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าใครเอาไปแอบอ้างหรือเลียนแบบ ก็จะได้เป็นที่รู้ว่าไม่ใช่งานของเขียน ยิ้มศิริ ของจริง หลายคนอาจทำงานชิ้นนี้คล้ายงานของคุณพ่อ เพราะได้รับแรงบันดาลใจ แต่บางคนตั้งใจเลียนแบบเลยโดยดัดแปลงให้ชิ้นงานเล็กลง ยังจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณแม่เคยให้ตำรวจไปจับ จับทีก็หายไปที แล้วมีอีกแต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว อาจเป็นเพราะงานศิลปะกว้างขวางขึ้น"

ขนงนุชอธิบายถึงการทุบโมที่มีอายุนานถึง 57 ปีชิ้นนี้ ปัจจุบันเธอและน้องสาว ขนงนาฎ มีบริษัทผลิตและส่งออกสินค้าเซรามิกในแบรนด์ "เขียน"มาประมาณ 18 ปี โรงงานอยู่ในซอยวัชรพล ส่วนใหญ่ส่งออกในประเทศแถบยุโรปและญี่ปุ่นเป็นหลัก

เขียน ยิ้มศิริ เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม 2465 ที่ธนบุรี ภายหลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนอัมรินทร์โฆษิต ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนประณีตศิลปกรรม ปี 2493 ได้รับทุนกระทรวงศึกษาธิการ ไปศึกษาวิชาประติมากรรมที่ Chelsca School of Art ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ภายใต้การดูแลและแนะนำของ Henry Moore เป็นเวลา 1 ปี ต่อมาปี 2496 ได้รับทุนจากรัฐบาลอิตาลีไปศึกษาประติมากรรมและประวัติศาสตร์ศิลป์ ณ สถาบันศิลปะแห่งกรุงโรม

ปี 2496 ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินชั้นเยี่ยม สาขาประติมากรรม

ปี 2507 รักษาการตำแหน่งคณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ สืบต่อจากอาจารย์ศิลป์ พีระศรี และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2514 รวมอายุได้ 49 ปี

ผลงานของเขียนแสดงออกด้วยเรื่องราวและลักษณะของไทย คล้ายประติมากรรมสมัยสุโขทัยมาผสมผสานกับทัศนะส่วนตัวนำเสนอในลักษณะสมัยใหม่ เสียงขลุ่ยทิพย์เป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมาก

สำหรับซากของโมชิ้นนี้จะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงศิลปินท่านนี้ที่ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us