ตลาดบัตรเครดิตส่อเค้าการแข่งขันเข้มข้นขึ้นอีก เมื่อ JCB จากญี่ปุ่น ประกาศตัวรุกตลาดไทยเต็มที่ โดยมี KTC เป็นพันธมิตร

หลังจากที่ทดลองทำตลาดบัตรเครดิต ในไทยมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนัก ปีนี้ JCB กลับมารุกตลาด ไทยอีกครั้ง ด้วยความหวังที่จะผลักดันให้บัตรเครดิตเจซีบีติดตลาดกลายเป็นผู้เล่นสำคัญรายหนึ่งของไทย จนนำไปสู่การเลือกจับมือกับบริษัท บัตรกรุงไทย หรือเคทีซี ผู้นำตลาดบัตรเครดิตของไทย โดยวางตำแหน่งเป็นบัตรเฉพาะกลุ่มจับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นในไทยที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเกี่ยวเนื่องกับสินค้าและบริการจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่การเดินทางท่องเที่ยวไปญี่ปุ่น

ฮิโรยา โนบูฮารา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจซีบี อินเตอร์ เนชั่นแนล ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วยตนเองระบุว่า ตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของเจซีบี ความร่วมมือกับเคทีซี นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อกลยุทธ์ การดำเนินงานโดยรวมของเจซีบี เนื่องจากจำนวนสมาชิกบัตรที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลต่อยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและจำนวนร้านค้าที่รับบัตรเจซีบีทั่วทั้งภูมิภาคที่จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

เจซีบีเป็นผู้ออกบัตรและรับบัตรเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เริ่มธุรกิจในญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2504 ปัจจุบันมีการออกบัตรเจซีบีใน 19 ประเทศ มีผู้ถือบัตรราว 56 ล้านคน โดยเริ่มขยายธุรกิจมาประเทศไทยตั้งแต่ปี 2532 ช่วงแรกเป็น การให้บริการแก่ชาวญี่ปุ่นและผู้ถือบัตรเจซีบีอื่นๆ ที่เดินทางมาไทย โดยร่วมมือ กับธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงเทพ เจซีบีเริ่มออกบัตรในประเทศไทยในปี 2533 เคยมียอดผู้ถือบัตรราว 20,000 ใบ แต่ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว ครั้งนี้ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดบัตรเครดิตไทยจำนวน 10% ภายในปี 2553 และคาดว่า ความร่วมมือกับเคทีซีจะช่วยให้มียอดบัตรภายในปี 2550 ได้ราว 8 แสนถึง 1 ล้านใบ

ความร่วมมือกับเจซีบีในครั้งนี้เป็นการขยายฐานลูกค้าของเคทีซี ให้กว้าง ขึ้นออกสู่ผู้ถือบัตรต่างประเทศ ต่อเนื่องจากความร่วมมือที่ทำกับธนาคารโอซีบีซี ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยนอกจากเคทีซีจะได้โอกาสในการเจาะกลุ่มผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะได้ประโยชน์จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเจซีบีจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาในประเทศไทย ปีละ 1.25 ล้านคนอีกด้วย

เคทีซีเตรียมนำกลยุทธ์ที่เคยใช้และประสบความสำเร็จกับบัตร VISA มาแล้วมาใช้กับบัตรเจซีบีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะลูกเล่นของตัวบัตร ไม่ว่าจะเป็นบัตร mini หรือ shape card โดยคาดว่าจะเริ่มออกบัตรใบแรกได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้