Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 ธันวาคม 2545
เป้าหมายแปรสัญญาเพื่อใคร             
 

   
related stories

ผ่าทางตันแปรสัญญา เปลี่ยนรายได้เป็นภาษี




การแปรสัญญาโทรคมนาคม เป็นความจำเป็นตามแผนแม่บทพัฒนากิจการโทรคมนาคม ที่ต้องการให้เกิดการแข่งขันเสรีและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ให้บริการรายเก่า ผู้ให้บริการรายใหม่ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจที่จะแปรสภาพเป็นบริษัทอย่าง บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น กับการสื่อสารแห่งประเทศไทย(กสท.) ที่หมดสภาพการเป็นผู้กำกับดูแล เหลือไว้แต่เพียงผู้ให้บริการรายหนึ่งที่ต้องแข่ง ขันอย่างเท่าเทียมกับเอกชน

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีทีกล่าวว่าที่ผ่านมาจำเป็นต้องมีการแปรสัญญาสัมปทานเพราะ 1.การควบคุม กำกับดูแล ซึ่งเอกชนต้องดำเนินธุรกิจภายใต้การดูแลของทศท.และกสท. ซึ่งตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ได้ระบุว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) รวมทั้งเรื่องการออกใบนุญาตใหม่ หากไม่มีการแปรสัญญาก็จะเกิดความ ซ้ำซ้อนขึ้น

2.ปัญหาการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ ในรูปส่วนแบ่งรายได้ แต่ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการ โทรคมนาคม กำหนดให้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียม ค่าใช้คลื่นความถี่และค่าใช้เลขหมายแทน ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่ต่างจากการจ่ายส่วนแบ่งรายได้เดิมเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการแปรสัญญา อาจเกิดผลกระทบผู้ประกอบการรายเดิมกับผู้ประกอบการรายใหม่ ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

"ประเด็นนี้ที่สำคัญคือ เอกชนรายเดิมจะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐวิสาหกิจ ที่กลายเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ"

3.ทรัพย์สินในการดำเนินการ เอกชนได้มอบทรัพย์สินให้รัฐวิสาหกิจในการครอบครอง แต่สิทธิในการใช้ทรัพย์สินนั้นยังเป็นของเอกชนอยู่ แต่เมื่อมีกทช.ผู้ประกอบการายใหม่ไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้รัฐวิสาหกิจ หากไม่มีการแปรสัญญาก็เกิดประเด็นความไม่เป็นธรรม เพราะผู้ประกอบการรายเดิมเกรงว่ารัฐวิสาหกิจที่เปลี่ยนเป็นคู่แข่งอาจไม่ให้ความสะดวกในการเข้าไปใช้ทรัพย์สินดังกล่าว

4.ปัญหาอำนาจหน้าที่ ในการแปรสัญญา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องระหว่างคู่สัญญา หรือเป็นเรื่องของรัฐ ของทศท.และกสท.หรือเป็นหน้าที่ของกทช.ซึ่งอาจดูเหมาะสมกว่าเนื่องจากเป็นองค์กรอิสระ แต่อำนาจหน้าที่ไม่ใช่ปัญหาหลัก หากมีแนวทางที่ถูกต้อง และตามพ.ร.บ.เองก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าให้เป็นหน้าที่ของกทช. แต่ถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันเสรีเพื่อรองรับการทำหน้าที่ของกทช.

ที่ผ่านมาการแปรสัญญาไม่ประสบความสำเร็จเพราะกระทบกับหลายผ่ายทั้งรัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจคู่สัญญาและประชาชนผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่เดิมมีรายได้จากส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทก็จะได้รับผลกระทบ เอกชนที่ต้องจ่ายเงินให้รัฐวิสาหกิจก็เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเป็นคู่แข่งกัน ส่วนประชาชนก็มองว่าส่วนแบ่งรายได้ทำให้ค่าบริการมีราคาแพง

"การแปรสัญญาที่เดิมทำไม่สำเร็จเพราะอาจไม่ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อเรากำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนก็จะเห็นแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งทางออกจะทำให้เท่าเทียมกันทุกฝ่ายก็เป็นไปไม่ได้ บางกลุ่มอาจได้ประโยชน์ในระยะสั้น บางกลุ่มอาจได้ประโยชน์ในระยะยาว และบางกลุ่มอาจส่งผ่านประโยชน์ไปถึงประ- ชาชนผู้บริโภคในท้ายสุด"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us