|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
บลจ.ไทยพาณิชย์ได้ฤกษ์เปิดตัวกองทุนรวมลงทุนตปท. (FIF) ชิมลางด้วยการเปิดตัว "กองทุนไทยพาณิชย์ โกลบอลอิควิตี้ อินเด็กซ์ลิงค์ ฟันด์" ซึ่งถือเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนอ้างอิงตราสารอนุพันธ์กองแรกของกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ เอาใจนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ได้ขออนุญาตจัดตั้งกองทุนรวมไทยพาณิชย์ โกลบอล อิควิตี้ อินเด็กซ์ลิงค์ ฟันด์ (SCBGIF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยมีอายุโครงการ 3 ปี
สำหรับกองทุนรวมไทยพาณิชย์ โกลบอล อิควิตี้ อินเด็กซ์ลิงค์ ฟันด์ (SCBGIF) มีมูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย 10 บาท จำนวนหน่วยลงทุน 43 ล้านหน่วย ราคาของหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก 10.1070 บาท (รวมค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน 1% และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
รายงานข่าวกล่าวว่า กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์ระดมเงินทุนจากนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาและสถาบัน ไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่สำคัญ 4 ตลาดหลักหลักของโลก (Structured Note) เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มทางเลือกในการลงทุน และกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม ตามนโยบายการลงทุน
สำหรับนโยบายการลงทุนจะเป็นลักษณะผสม ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงตัวแปร โดยรูปแบบตราสารที่ลงทุนจะเป็นตราสาหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปรที่มีการจ่ายคืนเงินต้นในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเต็มจำนวน เมื่อครบอายุตราสาร ตัวแปรดังกล่าวหมายถึง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่สำคัญ 4 ตลาดหลักของโลก ภายใต้ Euro Medium Term Note Program (EMTN) จำนวน 4 ฉบับได้แก่ 1.ตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี NIKKEI 225 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น 2.ตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี HANG SENG ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 3.ตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี DOW JONES STOXX 50 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของประเทศยุโรป 4.ตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี S&P ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ โครงสร้างตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงตัวแปรแต่ละฉบับประกอบด้วย 2 ส่วนคือ หุ้นกู้ที่ออกภายใต้ EMTN Program โดยจ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบส่วนลด และสิทธิซื้อตัวแปรอ้างอิง ตราสารทั้ง 4 ฉบับ มีอัตราส่วนระหว่างหุ้นกู้ และสิทธิ์ซื้อตัวแปรอ้างอิงเช่นเดียวกันคือประมาณ 90 : 10 โดยผู้ออกตราสารจะต้องเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA- ขึ้นไปจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ โดยตราสารแต่ละฉบับออกโดยสถาบันการเงินต่างกันไป โดยอายุตราสารหนี้ที่จ่ายผลตอแบทนอ้างอิงตัวแปร 3 ปี
รายงานข่าวกล่าวอีกว่า บริษัทจัดการจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินในต่างประเทศอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างดังต่อไปนี้ เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนได้ เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์ หรือคู่สัญญาในตราสารทางการเงินดังกล่าวเป็นบริษัทต่างประเทศ ซึ่งได้รับจัดอันดับเครดิต Investment Grade จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานก.ล.ต. และหุ้นกู้อนุพันธ์หรือตราสารทางการเงินดังกล่าวต้องไม่อ้างอิงกับตัวแปรดังต่อไปนี้คือ ตัวแปรที่เกี่ยวกับกองทุนรวมประเภทเฮดจ์ฟันด์ ตัวแปรที่เป็นสินค้า Commodity เว้นแต่ทองคำและน้ำมันดิบ
|
|
 |
|
|