|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จัด กล่าวในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) เปิดเผยถึงการลงทุนในช่วงที่สถานการณ์การเมืองมีความวุ่นวายในขณะนี้ว่า ผู้จัดการกองทุนได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งในช่วงก่อนหน้าก็ได้มีการทยอยขายหุ้นออกมา เพื่อถือครองเงินสด รอจังหวะซื้อหุ้นบางตัวที่ราคาปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองน่าจะมีทางออก เนื่องจากใกล้เข้าสู่วันเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน นี้
"ในช่วงที่ผ่านมาเราได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็มีทั้งขายหุ้นออกมาบางส่วน เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อหุ้น อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในขณะนี้ยังไม่มีเม็ดเงินใหม่ ไหลเข้ามากองทุนหุ้น" นายมาริษกล่าว
จากการสำรวจพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นของนักลงทุนสถาบัน รายย่อย และนักลงทุนต่างประเทศ ของ "ผู้จัดการรายวัน" ระหว่างเดือนธันวาคม 2548-23 มีนาคม 2549 พบว่า นักลงทุนสถาบันมีแรงเทขายออกมาอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2548 มียอดขายสุทธิกว่า 3.9 พันล้านบาท เดือนมกราคม 2549 ขายสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาท เดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 3.9 พันล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 1-23 มีนาคม เริ่มทยอยซื้อหุ้นเข้าพอร์ต โดยซื้อสุทธิประมาณ 709 พันล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนรายย่อย ในเดือนธันวาคม 2548 มียอดขายสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท เดือนมกราคม 2549 ขายสุทธิ 5 หมื่นล้านบาท เดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท และระหว่างวันที่ 1-23 มี.ค. ซื้อสุทธิ 3 พันล้านบาท
ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ในเดือนธันวาคม 2548 ซื้อสุทธิ 2.1 หมื่นล้านบาท เดือนมกราคม 2549 ซื้อสุทธิ 7.4 หมื่นล้านบาท เดือนก.พ.ซื้อสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท และระหว่างวันที่ 1-23 มี.ค.นักลงทุนต่างชาติ เริ่มเป็นผู้ขายสุทธิ 3.7 พันล้านบาท เนื่องจากเริ่มไม่แน่ใจในสถานการณ์ทางการเมือง
"มุมมองตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะนี้แม้สถานการณ์การเมืองจะมีความร้อนแรงจาก จากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ลาออกและยุติบทบาทางการเมือง และเรียกร้องรัฐมนตรีพระราชทาน และนายกรัฐมนตรีพระราชทาน นักลงทุนต่างชาติไม่ค่อยกังวลมากนัก เนื่องจากยังเชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจไทย และตลาดหุ้นไทยราคาก็ไม่ได้สูงมากนัก แต่สิ่งที่นักลทุนต่างชาติอยากเห็นคือ สถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ เพราะจะทำให้การค้าการลงทุนชะงัก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุนกล่าว
แหล่งข่าวผู้จัดการกองทุน กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา พอร์ตกองทุนหุ้นของบลจ.ทั้งระบบถือว่าให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสัดส่วนที่สูง เนื่องจากการลงทุนสวนทางกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเห็นได้จากในช่วงที่ดัชนีทะยานขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี ผู้จัดการกองทุนต่างทยอยขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร ขณะที่นักลงทุนต่างชาติไล่ซื้อหุ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ที่ต่างชาติเริ่มมีแรงขาย กองทุนเริ่มกลับเข้าไปซื้อหุ้น
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการลงทุน และมีการถือเงินสด เพื่อรอจังหวะซื้อหุ้นที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม ที่ผ่านมา ผลตอบแทนย้อนหลังสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5.5-6.5% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาให้ผลตอบแทน 3.88%
"ในระยะสั้นยอมรับว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นระยะปานกลางหรือยาว ผลตอบแทนการลงทุนยังอยู่ในระดับสูง"นางวิวรรณกล่าว
ขณะที่นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนเป็นระยะ โดยเริ่มมีการถือครองเงินสด เพื่อเข้าลงทุนในหุ้นบางตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง แต่ราคาได้ปรับตัวดลลงอย่างมาก จากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน
ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นภายใต้การบริหาร ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์ดัชนีมาตรฐานสตลาดหลักทรัพย์
|
|
|
|
|