|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เปิดสูตรบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยโตแล้วต้องแตกหน่อ หวังดันบริษัทลูกพัฒนาโปรดักส์ใหม่เข้าสอดแทรกทุกตลาด จัดเกรดโซนแข่งขัน คาดกลุ่มบนทีซีซีแคปปิตอลฯของเจ้าสัวเจริญปะทะค่ายแลนด์ฯ ถัดมาแสนสิริฯชนเพอร์เฟคฯ ชี้บริษัทพัฒนาอสังหาฯระดับกลางลงล่าง เร่งหาผู้ร่วมทุนเพิ่มสภาพคล่อง หาช่องแตกไลน์บริษัทลูกออกโปรดักส์ใหม่แทรกเข้าตลาด จับตาค่ายพฤกษาฯ ตัวเก็งก้าวกระโดดขึ้นชั้นแข่งตลาดบน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากข้อมูลการขอจัดสรรโครงการใหม่ของผู้ประกอบการที่ยื่นกับกรมที่ดิน แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรายย่อยหายจากตลาดไปเกือบหมดแล้ว ทำให้จากนี้ไปการแข่งขันในตลาดอสังหาฯเป็นการแข่งขันเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯรายใหญ่และรายกลางเท่านั้น และด้วยรูปแบบการแข่งขันที่มีกลไกของตลาดในรูปแบบปิด ที่เกิดจากข้อจำกัดด้านสภาพาคล่องทางการเงิน บวกกับแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่อง เปรียบเสมือนการปิดประตูการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ ทำให้เกิดการแข่งขันเฉพาะกลุ่ม
และเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในด้านการเงิน ให้มีความสามารถแข่งขันและพัฒนาสินค้าออกมาแข่งขันภายในตลาดให้ได้ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นว่า มีผู้ประกอบการหลายๆ รายมีการเสริมสภาพคล่องด้านการเงิน ด้วยการดึงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนในการพัฒนาโครงการ ซึ่งนับเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเสริมสภาพคล่องด้านการเงินของบริษัทจัดสรร ที่ได้เปรียบและดีกว่าการขอกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะต้องบริหารโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับภาระดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการในตลาดทุกรายยังต้องมีการปรับตัว โดยได้พยายามพัฒนาสินค้าให้ครบถ้วนในทุกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบ้านเดี่ยว ,ทาวน์เฮาส์ และ คอนโดมิเนียม
"เจริญ"ดันทีทีซี แคปปิตอลฯชนแลนด์ฯ
ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาด ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดมีรูปแบบการแบ่งกลุ่มการแข่งขัน โดยมีการจับขั้วแบ่งโซนการแข่งขันกันออกเป็น 3-4 โซน ได้แก่ โซนบนจะเป็นการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่มีความได้เปรียบทางด้านเงินทุน บุคลากร และสินทรัพย์จำนวนมาก คือ กลุ่มบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีการแตกบริษัทลูกออกมาพัฒนาสินค้าที่ครอบคลุมในทุกเซ็กเตอร์ โดยมี บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผลิตสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ระดับบน ,บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมระดับบน ส่วนการทำตลาดบ้านระดับ 3-5 ล้านบาท ได้มีการแตกบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด
ส่วนบริษัทแม่ อย่างบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ได้พัฒนาบ้านเดี่ยว ตลาดกลาง-บน และคอนโดมิเนียมระดับกลาง ทำให้กลุ่มแลนด์ฯ มีสินค้าครอบคลุมในทุกตลาด ครอบคลุมในทุกพื้นที่
" กลุ่มที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญของบริษัทแลนด์ฯ คือ บริษัท ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท แคปปิตอลแลนด์ (สิงค์โปร)ถือหุ้น40% กับบริษัท ทีซีซี แลนด์ ของเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน60% ถือว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่เงินทุนแข็งแกร่ง โดยที่ผ่านมาทีซีซี แคปปิตอลฯ เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ขายอยู่ในตลาด และเริ่มต่อยอดการพัฒนาโครงการ โดยเล็งเข้าไปเทกโอเวอร์บริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายฐานการผลิตสินค้าในไลน์ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทำให้มีสินค้าครอบคลุมทุกตลาด ทุกทำเล บวกกับค่ายเจริญ ยังมีแลนด์แบงก์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ และทีซีซี แคปปิตอลฯ จะถูกดันให้เป็นหัวหอกสำคัญของกลุ่มเจริญ ที่จะปะทะกับค่ายแลนด์ฯ"แหล่งข่าว กล่าว
แสนสิริฯรักษาอัตราเติบโต
นายธีระชน กล่าวถึงการแบ่งโซนแข่งขันอีกว่า สำหรับกลุ่มโซนการแข่งขันถัดมาคือกลุ่ม บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ เป็นกลุ่มที่ต้องมีการปรับธุรกิจ และเพิ่มการผลิตสินค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเตอร์เพื่อให้สามารถแข่งขัน และผลักดันให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของบริษัทไว้ให้ได้
โดยในส่วนของกลุ่มแสนสิริ นับว่าในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมาก โดยล่าสุดในปีที่ผ่านมารายได้ของกลุ่มแสสิริ สูงถึง 9,000 กว่าล้านบาท และคาดว่าในปี49 นี้จะกว้าเข้ามาอยู่ในระดับ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มแสนสิริมีการแตกบริษัทลูกเข้า เพื่อพยายามพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับทุกตลาด โดยมี บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พลาสเนอร์ จำกัด เข้ามาผลิตสินค้าในกลุ่มทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมระดับกลาง ส่วน แสนสิริ เป็นผู้ผลิตบ้านเดี่ยวระดับบนและคอนโดฯระดับบน และเริ่มหันมาทำตลาดบ้านระดับกลาง ทำให้กลุ่มแสนสิริกลายเป็นอีกกลุ่มบริษัทหนึ่งที่มีความพร้อมในการแข่งขัน
ส่วนกลุ่มเพอร์เฟคฯ ได้พยายามปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา มีการปรับเพิ่มกระบวนการผลิตในส่วนของบ้านระดับกลางล่างและทาวน์เฮาส์ รวมถึงคอนโดฯระดับกลาง จากเดิมที่ผลิตสินค้าในกลุ่มบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ และบ้านเดี่ยวระดับกลาง ส่วนโครงการคอนโดฯในตลาดระดับบน บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด บริษัทลูกได้มีการร่วมทุนกับกลุ่มกับบริษัท เซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาฯในเครือเฟร์เซอร์แอนด์นีฟจากสิงคโปร์ จัดตั้งบริษัท ริเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีลเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000 ล้านบาท นอกเหนือจากโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังจะพัฒนาเพิ่ม
" อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทจะสามารถแข่งขันและมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ต้องสร้างศักยภาพของบริษัทให้มีความสามารถทัดเทียมคู่แข่งหรือสูงกว่า ซึ่งในส่วนของ เพอร์เฟคฯ เองเราไม่ได้มองเฉพาะแสนสิริแต่เรามองไปที่แลนด์ ซึ่งเราได้พิจารณาว่าแลนด์ฯมีอะไรบ้างที่เราไม่มี ซึ่งพบว่า สองสิ่งที่เราไม่มีแต่แลนด์มี คือ ธนาคารกับธุรกิจวัสดุตกแต่งภายใน ดังนั้นเพอร์เฟคฯต้องร่วมมือกับสถาบันการเงิน ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ อย่างเอสบี ฯ และ โมเดอร์นฟอร์มฯ เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทเข้ามา" นายธีระชนกล่าว
จับตาพฤกษาขึ้นบันไดแข่งแสนสิริ
นายธีระชน กล่าวว่า ส่วนในโซนถัดลงมา จะเป็นการแข่งขันในกลุ่มผู้ประกอบการระดับกลาง ซึ่งจะต้องมีการปรับตัว ทั้งในส่วนของการเพิ่มไลน์การผลิตตัวสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน อาทิ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ลลิล พร้อมเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
โดยเฉพาะในส่วนของบริษัทพฤกษาฯ นับว่าเป็นบริษัทที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว และสภาพคล่องที่สูง นอกจากนี้ พฤกษาฯยังให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบพรีแฟบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและร่นเวลาในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และสามารถสนองความต้องการลูกค้าที่ต้องการเห็นบ้านได้เร็วขึ้น จึงคาดว่าพฤกษาฯจะเป็นอีกบริษัทหนึ่ง ที่ก้าวกระโดดขึ้นมาแข่งขันในตลาดโซนเดี่ยวกับบริษัทแสนสิริ และเพอร์เฟคฯ ล่าสุดทางพฤกษาฯได้เริ่มมาจับตลาดคอนโดฯระดับล่าง
การจัดกลุ่มแบ่งโซนการแข่งขันในตลาดอสังหา
โซนบน
- กลุ่มบริษัทแลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด
โซนกลาง
- กลุ่มบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- กลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
โซนล่าง
- บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ฯลฯ
หมายเหตุ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)มีแนวโน้มที่จะกระโดดขึ้นโซนกลาง
|
|
|
|
|