Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 มีนาคม 2549
ไอเฟิร์มไล่บี้บัลลังก์สปอนเซอร์ ปั้นแพกเกจกระป๋องเจาะภูธร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย)

   
search resources

ยูนิ-เพรสซิเดนท์, บจก.
Marketing
Sport and Energy drink




ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ 3 พันล้านสุดคึก “ยูนิฟ ไอเฟิร์ม” คลอดบรรจุภัณฑ์กระป๋องขยายตลาดต่างจังหวัด ลุยเข้าทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด-เทรดดิชันนัลเทรด หวังกวดแชร์ผู้นำตลาดสปอนเซอร์-ทิ้งห่างเอ็มสปอร์ต ล่าสุดเปิดตัวน้ำผลไม้ยูนิฟ เดลี่ซี่ 25% บรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทรับเทรนด์เอเชียบูม

แหล่งข่าวจากบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผักและผลไม้ตรายูนิฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวยูนิฟ ไอเฟิร์ม เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสม แอล-คาร์นิทีน ขนาดบรรจุภัณฑ์กระป๋องลงสู่ตลาด จากปัจจุบันไอเฟิร์มมีบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทขนาด 500 มล.เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะบริษัทได้เตรียมขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น จากที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นทำตลาดในกรุงเทพฯเป็นหลักหรือราว 60% ส่วนตลาดจังหวัดเพียง 40% โดยบริษัทจะปรับสัดส่วนระหว่างการทำตลาดกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเป็น 50:50

อีกทั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เป็นผู้นำตลาดอย่างสปอนเซอร์ จะมีบรรจุภัณฑ์ครอบคลุมมากกว่า คือ กระป๋อง ขวดฝาจีบ และขวดฝาเกลียว ซึ่งการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋อง ทำให้ไอเฟิร์มมีบรรจุภัณฑ์ที่ครอบคลุมผู้นำตลาดมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันสปอนเซอร์ยังคงเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งถึง 50% และหลังจากไอเฟิร์มลงสู่ตลาดในช่วง 9 เดือนมีส่วนแบ่ง 22% เป็นอันดับสองของตลาดแทนที่เอ็มสปอร์ตของค่ายโอสถสภามีส่วนแบ่ง 13% จากมูลค่าตลาด 3,000 ล้านบาท

ส่วนช่องทางการจำหน่ายยูนิฟ ไอเฟิร์มในตลาดต่างจังหวัด บริษัทจะให้ความสำคัญกับช่องทางโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชันนัลเทรดในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 50:50 เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของยูนิฟ ไอเฟิร์ม เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มทำงาน และนักศึกษา จึงต้องให้ความสำคัญกับสองช่องทาง แต่เมื่อเทียบกับสินค้าคู่แข่งเครื่องดื่มเกลือแร่ อาทิ สปอนเซอร์ เอ็มสปอร์ต จะเน้นช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด 60% และโมเดิร์นเทรด 40%

แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์มูลค่า 3,000ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10% โดยแผนการทำตลาดยูนิฟ ไอเฟิร์ม จะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้า ควบคู่กับการให้ความรู้เกี่ยวกับสารแอล-คาร์นิทีน แก่กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้เป็นกลุ่มวัยเริ่มทำงาน นักศึกษา โดยการจัดโรดโชว์ตามฟิตเนส จัดกิจกรรมในรูปแบบกีฬาในมหาวิทยาลัยทุกเดือน เนื่องจากพบว่ากลุ่มเป้าหมายยังไม่ค่อยรับรู้เกี่ยวกับสารแอล-คาร์นิทีนว่ามีคุณสมบัติอย่างไร ในขณะที่การรับรู้ตราสินค้า “ยูนิฟ ไอเฟิร์ม”ถือว่าดีอยู่แล้ว

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวน้ำผลไม้25%”ยูนิฟ” เดลี่ซี บรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทลงสู่ตลาด นำร่องด้วยกัน 3รสชาติ ได้แก่ ลิ้นจี่ องุ่น และส้ม เนื่องจากกระแสขวดเพ็ทกำลังมาแรงในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี โดยพบว่าตลาดดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงหันมาใช้ขวดเพ็ทมากกว่าบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบยูเอชทีในสัดส่วนถึง 60:40 ในขณะที่ประเทศไทยการใช้บรรจุภัณฑ์กล่องยูเอชทียังมีมากกว่าขวดเพ็ท

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเอเชียเปลี่ยนมาใช้ขวดเพ็ท เนื่องจากสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคน ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของขวดเพ็ท คือสามารถดื่มได้ทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องมีหลอด และมีฝาปิด ซึ่งมีความสะดวกสบายมากกว่าบรรจุภัณฑ์ยูเอชที อย่างไรก็ตาม มองว่าการทำบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทของน้ำผลไม้ในไทย คงจะต้องใช้เวลาสร้างตลาดพอสมควร เนื่องจากอัตราการดื่มน้ำผลไม้ของคนไทยยังมีน้อยมาก คือแค่ 10 ลิตรต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับขวดเพ็ทมีความจุถึง 500 มิลลิลิตร

ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 3,400 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 17-18% โดยตลาดน้ำผลไม้ 100% มีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 25% และ 40% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยปีนี้คาดว่าตลาดน้ำผลไม้ 25% และ 40% จะมีอัตราการเติบโต 4-5% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 1-2%

ปัจจุบันตลาดน้ำผลไม้ 25% ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง โดยในเซกเมนต์นี้น้ำผลไม้ดีโด้ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 37% ดีดี 8% กรีนเมท 5% ที่เหลือเป็นรายเล็กรายน้อยแบ่งส่วนแบ่งกันไป โดยยูนิฟอาศัยต่อยอดจากการเป็นผู้นำตลาดน้ำผักและผลไม้ 40% ด้วยการครองส่วนแบ่งกว่า30% ลุยตลาดน้ำผลไม้ 25%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us