ปุ้มปุ้ยปรับแผนการตลาดใหม่ปีนี้ หลังประสบปัญหาต้นทุนพุ่งและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เตรียมมุ่งเน้นด้านบริหารจัดการต้นทุนในองค์กรเป็นหลัก รวมถึงฟันงบการตลาดลง 50% เพื่อรอดูสถานการณ์เป็นรายไตรมาสไป เล็งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้งไลน์ใหม่และรสชาติใหม่ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีเท่าปีที่แล้ว 700-800 ล้านบาท

นายไกรเสริม โตทับเที่ยง รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องตราปุ้มปุ้ย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ของบริษัทฯเตรียมปรับแผนการตลาดใหม่ที่มุ่งเน้นด้านการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุนวัตถุดิบภายในองค์กรเป็นหลัก หลังจากพบว่าต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น

ประกอบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯจึงได้ลดงบการตลาดลง 50% หรือประมาณ 30 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ใช้งบไป 60 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯต้องการรอดูสถานการณ์ต่างๆเป็นรายไตรมาสไป หรือมีการวัดผลภายในองค์กร รวมถึงดูความต้องการของผู้บริโภคก่อน จากนั้นถึงพร้อมทุ่มงบการทำตลาดหรือทำแคมเปญใหญ่ๆ

“ปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวปลากระป๋องใหม่ทั้งในส่วนรสชาติใหม่และไลน์ใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 ของปีนี้ รวมถึงปีนี้บริษัทฯเตรียมขยายช่องทางการขายไปสู่โมเดิร์นเทรดมากขึ้น จากเดิมมีสัดส่วน40% และจะเพิ่มเป็น 50% และที่เหลือ 50% เป็นช่องทางเทรดดิชั่นแนล เช่น ยี่ปั๊วและซาปั๊ว”

สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรือประมาณ 600-700 ล้านบาท โดยปลาปรุงรสมียอดขายมากที่สุด คิดเป็น 70% ที่เหลือเป็นปลาในซอสและปลาซาดีน 30% ทั้งนี้ยอดขายบริษัทฯไม่โตต่อเนื่องมากว่า 4-5 เดือนแล้ว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลักและการที่บริษัทฯไม่ได้ทำกิจกรรมเพิ่มเติมมากนัก หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ “สะสม เลขเด็ด ลุ้นรวยซะให้เข็ดกับปุ้มปุ้ย ปลายิ้ม” ไปเมื่อ 1 ตุลาคม 2548

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจปลากระป๋องปีนี้มองว่าตลาดจะทรงตัว เพราะปัจจัยด้านต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ ,สถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง และคนมีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น เป็นต้น โดยตลาดปลากระป๋องปรุงรสมีมูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท ปุ้มปุ้ยเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 90% ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท ปุ้มปุ้ยอยู่อันดับ 3 มีส่วนแบ่งอยู่ 10-15%