|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คลังเตรียมเก็บหุ้นแบงก์กรุงไทยไว้เองหากกองทุนฟื้นฟูขายออกมา ระบุรักษาสัดส่วนการถือหุ้นให้ยังคงเป็นแบงก์รัฐ หวังใช้เป็นเครื่องมือในดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่อ เผยซื้อหุ้นจากกองทุนฟื้นฟูฯแค่เป็นการโยกเงินจากกระทรวงซ้ายเป็นขวาเท่านั้น ด้านแบงก์ชาติยันสัดส่วนที่ขาย 3-4%เป็นจำนวนที่จะทยอยขายทั้งปีและไม่มีการอนุมัติเพิ่ม โชว์เป็น 2 แบงก์ที่มีฐานะมั่นคง และมีนักลงทุนต้องการซื้อหุ้น แต่ไม่สามารถหาซื้อในตลาดได้
นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะขายหุ้นของธนาคารกรุงไทยและธนาคารนครหลวงไทยออกมา 3-4% ว่า หากกองทุนฟื้นฟูจะขายออกมาจริง กระทรวงการคลังก็คงจะซื้อหุ้นในส่วนของธนาคารกรุงไทยเอาไว้ เพื่อรักษาสัดส่วนความเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยเห็นว่าการที่มีธนาคารของรัฐอยู่ในมือ ก็จะเป็นเครื่องมือในการช่วยป้องกันปัญหากรณีที่ประเทศเกิดวิกฤตได้ รวมทั้ง หากกรณีธนาคารพาณิชย์เอกชนไม่ปล่อยสินเชื่อ ก็จะใช้ธนาคารกรุงไทยเป็นตัวกลางปล่อยสินเชื่อแทน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากนัก
"รัฐบาลมีนโยบายที่จะเก็บธนาคารกรุงไทยเอาไว้เพียงแห่งเดียว ซึ่งหากกองทุนฟื้นฟูฯขาย แล้วกระทรวงการคลังซื้อเอาไว้ ก็เหมือนการเปลี่ยนจากกระเป๋าซ้ายมาเป็นกระเป๋าขวาเท่านั้น ส่วนกรณีของธนาคารนครหลวงไทยนั้น เหมาะที่จะกระจายให้กับนักลงทุนรายย่อยมากกว่า"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าว
สำหรับกรณีที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานตัวเลขในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนกุมภาพันธ์ ว่าสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง มีการปรับตัวลดลง 841 ล้านบาท หรือ 0.03% นั้น นายทนงกล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับธนาคารกรุงเทพ ก็เห็นว่าการปล่อยสินเชื่อยังไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหา แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ส่วนสภาพคล่องโดยรวมก็ยังคงดีอยู่ แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อออกไปมากกว่านี้ อาจจะมีผลกระทบบ้าง
ขณะที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า หุ้นของธนาคารกรุงไทยและธนาคารนครหลวงไทยที่กองทุนฟื้นฟูจะขายออกมาในจำนวน 300 ล้านหุ้น และ 100 ล้านหุ้นตามลำดับ หรือคิดเป็นสัดส่วน 3-4%นั้น เป็นจำนวนหุ้นที่จะนำออกขายในปีนี้ทั้งปี ไม่ใช่ขายเป็นล็อตเดียว และจะไม่มีการอนุมัติเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ การที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯขายหุ้นดังกล่าว เนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่าฐานะของทั้ง 2 ธนาคารอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีความมั่นคง รวมทั้งได้มีนักลงทุนสนใจที่จะซื้อหุ้นของธนาคารทั้ง 2 แห่ง แต่ไม่สามารถซื้อได้ในตลาดหลักทรัพย์ จึงเสนอให้กองทุนฟื้นฟูนำหุ้นบางส่วนออกมาขาย ซึ่งได้จำนวนหุ้นที่นำออกมาขายนั้นจำนวนไม่มากจนทำให้กระทบต่อราคาในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
"มีนักลงทุนสนใจอยากซื้อหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ แต่ไม่มีขายในตลาดหลักทรัพย์ จึงเห็นว่าน่าจะนำออกขายได้เพราะแบงก์ทั้ง 2 แห่งก็มีฐานะดี แต่ได้กำชับว่าให้นำออกขายได้ไม่มากนักในปีนี้ โดยเน้นขายให้กับนักลงทุนรายย่อยของไทย ไม่ใช่ขายให้นักลงทุนต่างชาติ โดยขายผ่านตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น แบบไม่เฉพาะเจาะจง และผ่านใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR ) " ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว
|
|
|
|
|