นางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2549 อนุมัติการทำสัญญารับจ้างเป็นที่ปรึกษาและบริหารงานให้กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับสัญญาฉบับดังกล่าว บริษัทจะรับบริหารงานและการจัดการทั่วไป ประกอบด้วย การให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารงาน การจัดการด้านบุคลากรและผู้ที่มีความ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงการบริหารทางการเงิน ได้แก่ การบริหารสินเชื่อ และการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ บริษัทจะทำหน้าที่บริหารงานและการจัดการทั่วไปเป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2549 - 31 ธันวาคม 2550 มูลค่าผลตอบแทนประมาณ 360 ล้านบาท แต่วงเงินไม่เกิน 400 ล้านบาท แต่ไม่รวมค่าธรรมเนียมบริหารการเงินที่จะต้องมีการใช้บริการจริง โดยเกณฑ์การคำนวณผลตอบแทนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การบริหารงานและการจัดการทั่วไปอ้างอิงจากมาตรฐานของบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ ขณะที่การบริหารการเงินคิดค่าธรรมเนียมตามรายการที่เกิดขึ้นจริงในอัตราเทียบเคียงตลาด

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย คือ กลุ่มเทมาเส็กเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SHIN และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โดยทางอ้อมของ ADVANC ผ่านทาง Singtel Strategic Investment Pte Ltd. ที่ถือหุ้น ADVANC ในสัดส่วน 19.25%

ทั้งนี้ คณะกรรมการได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า รายการดังกล่าวมีการตกลงกันในอัตราที่สมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท ขณะเดียวกันกรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่เข้าร่วมประชุมและไม่มีสิทธิออกเสียงในการพิจารณาการเข้าทำรายการนี้

***ตั้งสุรินทร์นั่งกรรมการSHIN***

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการยังได้อนุมัติแต่งตั้งนายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการ แทนนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ที่ได้ลาออกไปเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2549 และให้เปลี่ยนแปลงกำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 จากเดิม 25 เมษายน 2549 เป็นวันที่ 27 เมษายน 2549 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 7 เมษายน 2549

สำหรับนายสุรินทร์ อุปพัทธกุล ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการ SHIN นั้น เป็นนักธุรกิจชาวไทย ที่ได้รับสิทธิพำนักถาวรในมาเลเซีย เข้ามาลงทุนในบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด (ผู้ถือหุ้นบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่กลุ่มเทมาเส็กจัดตั้งขึ้น เพื่อใช้เข้ามาซื้อหุ้น SHIN) จากนายพงษ์ สารสิน และนายศุภเดช พูนพิพัฒน์ จำนวน 272 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 68% มูลค่ารวมกว่า 2,720 ล้านบาท ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่า นายสุรินทร์ จะเป็นตัวแทนที่เข้ามาถือหุ้น SHIN (นอมินี) แทนกลุ่มเทมาเส็กหรือไม่

***ชินคอร์ปแจงนักวิเคราะห์***

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (23 มี.ค.) บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานผู้บริหารพบนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ทั้งจากบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเป็นครั้งแรกภายหลังจากที่กลุ่มตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ได้มีการขายหุ้นให้กับกลุ่มกองทุนเทมาเส็ก จากประเทศสิงคโปร์

โดยงานนี้บริษัทได้นำเสนอบริษัทย่อยในกลุ่มทั้งหมด เริ่มจากบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL, บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL, บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัทไทยเอเชีย จำกัด , บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด, และ SHIN ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นในบริษัทลูกทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทได้เชิญนักวิเคราะห์และให้มีการตอบรับผ่านอีเมลล์ หากนักวิเคราะห์รายได้ไม่มีการตอบรับบริษัทจะทำการตรวจสอบเอกสารของผู้เข้าร่วมงานอย่างละเอียด รวมทั้งมีการเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 3 สำนักข่าว คือ สำนักข่าวรอยเตอร์ ดาวโจนส์ และบลูมเบิร์ก ขณะที่ผู้สื่อข่าวของไทยกลับไม่ได้รับความสนใจและพยายามกีดกันไม่ให้เข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 4 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด

MR. RICHARD W. JONES ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL กล่าวว่า การเลือกที่จะเชิญผู้สื่อข่าวบางฉบับเข้าร่วมฟังเนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมจำนวนสื่อที่เข้าร่วมฟังได้ และต้องการให้สื่อที่เข้าร่วมฟังเป็นสื่อที่ควบคุมได้ และที่สำคัญไม่ได้จัดงานในครั้งนี้เพื่อให้สื่อมวลชนเข้าร่วมการเพียงแค่ต้องการให้นักวิเคราะห์ได้สอบถามข้อมูลเท่านั้น ซึ่งเป็นนโยบายของผู้บริหารบริษัท

ด้านนักวิเคราะห์ที่ได้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลกล่าวว่า บริษัทได้จัดงานในลักษณะที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่มีการนำเจ้าหน้าที่รักษาการปลอดภัยมาตรวจสอบผู้ที่เข้าร่วมงาน และจำนวนนักวิเคราะห์ที่เข้ารับฟังมีจำนวนน้อยกว่าทุกครั้ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด

***ADVANCรับยอดเอไอเอสลดฮวบ***

นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กล่าวว่า ไตรมาสแรกปี 2549 นี้ คาดว่ายอดการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขของบริษัทจะปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของก่อน โดยมีสาเหตุหลัก 4 ประการ คือ 1. ปัจจัยการเมืองเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน 2. สงครามด้านราคาการให้บริการโทรศัพท์ระหว่างคู่แข่ง 3. การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และ 4. กระแสการต่อต้านการใช้สินค้าภายใต้ระบบเอไอเอส ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญและได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากในการเสนอข่าว

"เรื่องการบอตคอตสินค้าของเราเป็นเรื่องที่สำคัญ เพียงมีคนมาชุมนุมหน้าออฟฟิศแค่ 20 คน สื่อมวลชนให้ความสนใจเสนอข่าวอย่างมาก และยังมีการรณรงค์เพื่อให้เลือกใช้สินค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง" นายสมประสงค์กล่าว

สำหรับงบประมาณการลงทุนในปี 2549 นี้ บริษัทคาดว่าจะลงทุนเพิ่มในส่วนของโทรศัพท์ 2G ประมาณ 350-400 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หากได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการประกอบกิจการระบบ 3G จะใช้เงินลงทุนประมาณ 450 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะรีไฟแนนซ์เงินกู้อีกประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้

"บริษัทยังมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลเต็ม 100% ของกำไรสุทธิ โดยไม่จำเป็นต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินทุน เพราะหากจำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม บริษํทมีความพร้อมที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงิน" นายสมประสงค์ กล่าว

***บุญคลีย้ำบริหารกลุ่มชินฯต่อ

ส่วนคำถามของนักวิเคราะห์ในประเด็นการดำรงตำแหน่งผู้บริหารของนายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHIN นั้น นายบุญคลี ได้ยืนยันว่า ยังจะทำหน้าที่บริหารงานต่อไป เนื่องจากยังมีความสนใจและชอบในการบริหารงานของบริษัท และที่สำคัญไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของผู้บริหารของบริษัท แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น

ขณะที่เงื่อนไขในสัญญาการซื้อขายหุ้นระหว่างกลุ่มตระกูลชินวัตร และดามาพงษ์ นั้น เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว ตนเองไม่ทราบรายละเอียดและเงื่อนไขที่อยู่ภายใต้สัญญา แต่ส่วนตัวยังไม่มีความสนใจที่จะต้องขายหุ้นบริษัทลูกออกไป

"ที่มีการเสนอข่าวว่าผมรวยเป็นพันล้านจากการขายหุ้น เรื่องนั้นไม่เป็นความจริงผมต้องเสียภาษี 37% และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยจากการกู้เงินเพื่อมาลงทุนอีก ผมไม่ใช่คนรวย" นายบุญคลี กล่าว

***ก.ล.ต.จี้เอสซีฯเปิดข้อมูลผู้ถือหุ้น***

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งเพิ่มเติมว่า สำนักงานก.ล.ต. ได้สั่งให้บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงข้อมูลผู้ถือหุ้นที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย Oversea Growth Fund Inc. และ Offshore Dynamic Fund Inc. และ Win Mark Limited โดยให้ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. ผ่านระบบเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทางหนึ่ง

ขณะที่ความคืบหน้าการตรวจสอบของ ก.ล.ต. ในเรื่องนี้ ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากอยู่ระหว่างเช็คสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศด้วย