แบงก์กรุงเทพ ยอมรับยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยต้นปีลดลง แต่แข็งใจยังไม่ปรับเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ที่ตั้งไว้ 25%หรือ 2 หมื่นล้าน รอพิจารณาอีกครั้งหลังผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ด้าน"ไทยพาณิชย์"ระบุยอดสินเชื่อ 3 เดือนแรกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ยังคงจับตาสถานการณ์ทางการเมืองใกล้ชิด และพร้อมจะปรับเปลี่ยนตาม
นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการสายลูกค้าบุคคลนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สินเชื่อเพื่อที่อยู่ในอาศัยในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการชะลอตัว โดยเฉพาะในเดือนมี.ค. 2549 นี้ ยอดสินเชื่อและจำนวนรายลูกค้าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในส่วนของธนาคารเองก็พยายามที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น และเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างแม้จริง
นางรัชนีกล่าวว่า ปัญหาด้านการเมืองที่มีความยืดเยื้อในขณะนี้ อาจจะมีผลกระทบต่อสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจของผู้บริโภคที่มีอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับตัวขึ้นมาตลอด แต่อย่างไรก็ตามเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อบ้านหรือไม่จะอยู่ที่การคาดการณ์ว่าราคาบ้านจะปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะยังไม่มีการปรับเป้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ แต่จะพิจารณาหลังจากจบการเลือกตั้งแล้ว โดยเป้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอยู่ที่ 25%หรือคิดเป็นเม็ดเงินกว่า 20,000 ล้านบาท จากยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 80,000 ล้านบาท
ด้านคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB) กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2549 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 13,000-14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารทั้งปีตั้งไว้ 54,000 ล้านบาท ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อของธนาคารทั้งลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้
นอกจากนี้ ธนาคารก็ยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากอาจจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารได้ และหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ธนาคารก็มีความพร้อมที่จะปรับตัวตามไปด้วย
|