Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 มีนาคม 2549
เซ็นทรัลร่วมต่างชาติซื้อโรงแรมภูเก็ต             
 


   
www resources

โฮมเพจ โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า

   
search resources

โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า, บมจ.
Hotels & Lodgings




โรงแรมเซ็นทรัลพลาซาเตรียมจับมือพันธมิตรต่างประเทศตั้งบริษัทใหม่ เพื่อไปซื้อโรงแรมประเดิมภูเก็ตแห่งแรก สัปดาห์หน้าเดินทางไปดูอีก1 แห่ง ผู้บริหารคาดรายได้ปี2553แตะ 7,400 ล้านบาท จากมีห้องพักมากว่า 5,000 ห้อง คาด 3ปี ใช้งบลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท เผยปัจจัยการเมืองยังไม่กระทบ แต่เดือนเม.ย.นี้เตรียมประเมินสถานการณ์

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานของบริษัทจะมีการหันไปซื้อกิจการโรงแรม เพื่อที่จะไม่ต้องลงทุนจำนวนมากและรับบริหารโรงแรมแต่ก็ยังคงมีการลงทุนสร้างโรงแรมเองบ้าง โดยในเดือนเมษายนนี้บริษัทจะมีการเซ็นสัญญากับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยบริษัทจะถือหุ้นอยู่ 50% เพื่อที่จะเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมที่มีการดำเนินงานอยู่แล้ว

ทั้งนี้โรงแรมแรกที่จะเข้าไปซื้อกิจการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่บริเวณเกาะลันตาและเกาะกูดมูลค่า 1,400 ล้านบาท มีขนาด 350 ห้อง และสัปดาห์หน้าบริษัทจะเดินทางไปดูโรงแรมที่จังหวัดภาคใต้อีก 1 แห่งเพื่อจะเข้าซื้อกิจการ โดยในปีนี้บริษัทจะมีโรงแรมใหม่ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 6 แห่ง คือ 2 แห่งที่จะเข้าซื้อกิจการและอีก 4 โรงแรมเป็นการรับบริหารซึ่งจะเป็นโรงแรมในต่างประเทศแถบเอเซียซึ่งทั้ง 4 โรมแรมนั้นอยู่ใน 1 ประเทศ

สำหรับปี2549 บริษัทจะใช้เงินลงทุนรวม 3,200 ล้าบาท แบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจอาหาร 400 ล้านบาท การเปิดสาขาใหม่อีก 63 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม ทำให้ปีนี้มีสาขารวมทั้งสิ้น 490 สาขา และที่เหลือลงทุนในธุรกิจโรงแรม โดย 3 ปีจากนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท ในการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่ คือที่ เกาะลันตา กระบี่ เกาะกูด ตราดและเชียงราย ซึ่งจะทำให้มีห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 1,500 ห้อง

“งบลงทุน10,000 ล้านบาทจะมาจากเงินกู้ 6,000 ล้าบาท และอีก 4,000 ล้านบาท จะมาเงินทุนของบริษัท ซึ่งจะมาจากกระแสเงินสดในการดำเนินงาน 3,000 ล้านบาท และอีก 1,000 ล้านบาทจะมาจาก 4 แนวทาง คือ1. ชะลอการลงทุนโรงแรมที่จังหวัดภูเก็ต 2.ขายธุรกิจอาหารออกไป 40% 3.ตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์และ4.หาพันธมิตรร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทางเลือกภายในปีนี้ ”นายรณชิต กล่าวว่า

นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทคาดว่าในปี 2553 บริษัทจะมีห้องพักรวมมากกว่า 5,00 ห้องซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้รวมประมาณ 7,400 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดรายได้รวม 6,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปี48 ที่มีรายได้รวม 6,239 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในไตรมาส1/49ค่าเช่าห้องต่อคืนฉลี่ยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็น 3,400 บาท จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,052 บาทต่อคืน และธุรกิจอาหารในปีนี้จะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 63 สาขา และเพิ่มสินค้าประเภทใหม่ๆ ก็จะทำให้รายได้ทั้งอาหารและธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น

“บริษัทคาดรายได้ปี2549จำนวน 6,900 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ธุรกิจโรงแรมจำนวน 2,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.5% จากปีก่อน ธุรกิจอาหาร 4,300 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 11.3%จากปีก่อน โดยในไตรมาส1/2549 บริษัทคาดรายได้รวม 1,670 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดของทุกๆไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีรายได้จากธุรกิจอาหาร 970 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรม700 ล้านบาท ”นายรณชิต กล่าวว่า

สำหรับปัจจัยทางเมืองนั้นในระยะสั้นยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทซึ่งในธุรกิจโรงแรมนั้นก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพักอย่างต่อเนื่องยังไม่มีการปรับตัวลดลง ซึ่งโรงแรมที่หาดใหญ่ในช่วงสงกรานต์ก็มีนักท่องเที่ยวจองเข้าพักแล้ว 95% ดังนั้นเชื่อว่าหากเหตุการณ์ไม่รุนแรงก็จะไม่กระทบการดำเนินงานธุรกิจ แต่ในช่วงเมษายน บริษัทก็จะมีการประเมินสถานการณ์ว่าบริษัทจะมีการปรับแผนการดำเนินงานหรือไม่จากปัจจัยทางการเมือง

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจากปัจจัยทางเมืองที่เกิดขึ้นมีผลทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เพิ่มขึ้น 3-4 % จากเดิมที่คาดว่าจะมีการเติบโต 5.5-5.7%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us