ไททีวี ทุ่มงบ 600 ล้านบาท ปรับระบบส่งสัญญาณออกอากาศจากอนาล็อกเป็นดิจิตอล แบ่งเป็น 2 เฟส ประเดิมเฟสแรกเสร็จแล้ว แต่งตั้งเอเย่นต์ 50 รายร่วมทำตลาดหาผู้สนใจติดตั้งกล่องรับสัญญาณ คาดปีนี้จะมี 50,000 ราย เล็งหาพันมิตรเพิ่มเพื่อผลิตคอนเท้นต์หลากลหาย เตรียมเก็บเงินในช่องพิเศษในอนาคต

นายสุรภากร ศรีวุฒิวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ไททีวี วิทยุโทรทัศน์ จำกัด ผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ ไททีวี กล่าวว่า บริษัทฯตั้งงบประมาณในการปรับปรุงระบบการส่งสัญญาณออกอากาศของไททีวีเป็นระบบดิจิตอลจากเดิมที่ออกอากาศเป็นระบบอนาล็อคผ่านเสาอากาศเอ็มเอ็มดีเอส ด้วยงบประมาณการลงทุนรวม 500-600 ล้านบาท โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 เฟส

ขณะนี้เฟสที่ 1 ลงทุนไปประมาณ 400 กว่าล้านบาท ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วหลังจากที่เริ่มปรับเปลี่ยนระบบมาตั้งแต่ เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และพร้อมที่จะเปิดตัวตั้งแต่เดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าล่าช้าจากกำหนดการเดิมไปประมาณ 3 เดือนจากเดิมที่กำหนดจะเปิดตัวระบบดิจิตอลนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากติดปัญหาในรายละเอียดของการดำเนินงาน

ส่วนเฟสที่สองนั้นก็เริ่มทยอยทำแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็น ด้านเทคนิครายละเอียดต่างๆ ด้านการจัดการ ด้านบุคลากรทั่วไป ซึ่งต้องลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปอีก 3 เดือนจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนระบบเป็นดิจิตอลนั้น ผู้ชมเดิมที่อยู่ในขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีเสาอากาศเอ็มเอ็มดีเอสอยู่แล้ว เพียงแต่นำอุปกรณ์ชุดรับสัญญาณ ไททีวี-เนชั่นแชนแนล บ็อกซ์ มาติดตั้งและปรับจูนคลื่นสัญญาณก็จะสามารถรับชมได้ภาพท่ชัดเจนและมีเนื้อหารายการที่เพิ่มขึ้นถึง 16 ช่องในอนาคต ซึ่งขณะนี้สามารถรับชมได้ 10 ช่องจากระบบเดิมที่มีเพียง 3 ช่องเท่านั้น

โดย 3 ช่องเดิมนั้น ได้ร่วมกับบริษัท เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยเนชั่นแชนแนล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ไททีวีช่อง 1 ช่องเนชั่นแชนแนลสถานีข่าว 24 ชั่วโมงแห่งแรกของไทย นำเสนอข่าวประเด็นร้อน ตามติดทุกสถานการณ์ ไททีวีช่อง 2 เป็นรายการวาไรตี้ รายการศาสนา รายการการ์ตูน สารคดี วาไรตี้มุสลิม คริสเตียนวาไรตี้ และรายการที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ส่วนไททีวีช่อง 3 เป็นช่องเอ็มวี รายการภาพยนตร์

"บริษัทฯตั้งเป้าหมายว่า ภายในปีแรกนี้ จะสามารถมีผู้ที่ติดตั้งกล่องรับไททีวีระบบดิจิตอลประมาณ 50,000 ราย ซึ่งคาดว่าคงไม่ยากเกินไปนัก เพราะคิดแล้วก็ประมาณ 10% เท่านั้นเองจากผู้ที่รับชมในระบบเดิมอยู่แล้วประมาณ 500,000 ครัวเรือน ซึ่งผู้ที่จะติดตั้งระบบของไททีวี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าการันตีอุปกรณ์และอื่นๆรวม 5,900 บาท ซึ่งในช่วงแรกนี้บริษัทฯเปิดกว้างให้ผู้สนใจทดลองชม และถ้าไม่พอใจสามารถคืนได้ภายใน 6 เดือนโดยจะได้รับเงินคืนประมาณ 4,000 กว่าบาท เพราะที่เหลือนั้นถูกหักเป็นค่าใช้จ่ายด้านดำเนินการบ้าง แต่ไม่มีการเสียค่ารายเดือนเหมือนเคเบิ้ลทีวี

นอกจากนั้นแล้วยังมีแผนที่จะเปิดกว้างในการหาพันธมิตรในการผลิตคอนเท้นต์รายการมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายของรายการซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดให้คนสนใจมาติดตั้งระบบของไททีวีมากขึ้นด้วย เพราะข้อดีตรงที่ไม่มีค่าบริการรายเดือน มีรายการที่หลากหลายให้ชม

สำหรับรายได้ในอนาคตนั้น บริษัทฯคาดว่าจะมาจาก การเพิ่มช่องพิเศษในรูปแบบแพกเกจ ซึ่งจะมีการเสียค่าใช้จ่ายต่างหาก เช่น การใช้บัตรในลักษณะคล้ายกับบัตรเติมเงิน ซึ่งหากจะดูช่องรายการพิเศษอื่นเพิ่มเติมก็ใช้วิธีขูดบัตรเพื่อดูรหัสแล้วก็ทำตามเงื่อนไขที่จะมีการกำหนดขึ้นในอนาคต ซึ่งตรงนี้เป็นเพียงแนวคิด

นายสุรภากรกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้ทำการแต่งตั้งเอเย่นต์หรือตัวแทนจำหน่ายในการหาลูกค้าและติดตั้งอุปกรณ์ระบบดิจิตอลไปแล้วกว่า 50 ราย จากที่มีผู้สนใจสมัครเข้ามาประมาณ 100 ราย ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการที่จะควบคุมคุณภาพและการทำตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไททีวี ของบริษัท ทีวีที เทเลวิชั่น จำกัด นี้ มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์ มาตั้งแต่ปี 2539 โดยมีระยะเวลาสัญญานาน 25 ปี ซึ่งต้องมีการจ่ายค่าสัมปทานตามเงื่อนไขที่กำหนดประมาณ 400-500 ล้านบาท และจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหากมีปริมาณผู้รับชมสัญญาณมากกว่าที่คาดการณ์อีกไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งในสัญญามีการระบุไว้ด้วยว่า จะต้องมีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการดำเนินการของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไททีวีเป็นระบบดิจิตอล