ฮิตาชิ เคลื่อนทัพ ตั้งเป้าหมายดันยอดขายสินค้าขึ้นสู่ท็อปทรีให้ได้ทุกกลุ่มในปีนี้ เพิ่มแชร์ทุกกลุ่มให้ได้ เผยแอร์ต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี วางเป้ารายได้รวมปีนี้ที่ 3,500 ล้านบาท เติบโต 15% มุ่งสินค้าไฮแวลูเป็นหลัก เปิดตัวสินค้าใหม่เทคโนโลยีสูงหวังขยับสู่ไฮเอนด์

นายมาซาอากิ ฮายาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในปีนี้บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะพยายามผลักดันแบรนด์ของฮิตาชิขึ้นเป็นท็อปทรีและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าหลักที่ทำตลาดอยู่ให้มากขึ้น จากเดิมที่มีติดท็อปทรีบ้างแล้วเช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เป็นต้น ด้วยการสานต่อนโยบายเดิมที่เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้วคือ Triple Change ซึ่งเป็นสามเทคโนโลยีที่ประกอบไปด้วย Core Technology-Clean-Comfort ที่จะพัฒนาสินค้าให้ทันสมัยและตอบสนองผู้บริโภคคนไทยเต็มที่

ทั้งนี้ในปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายโดยรวมไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 15% จากที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากกลุ่ม เฮชเอหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 70% และหมวดเอวี 20% โดยใช้งบการตลาดทั้งหมด 450 ล้านบาท ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรมต่างๆ ขณะที่ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าคาดว่าปีนี้ทั้งหมดจะมีประมาณ 78,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหมวดเฮชเอ 40,000 ล้านบาท หมวดเอวีมีประมาณ 38,000 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังมีนโยบายที่จะมุ่งพัฒนาสินค้าและทำตลาดไปในระดับที่เรียกว่า High Value Added มากกว่าที่จะเน้นด้านสงครามราคา ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มไฮแวลูนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม และจะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้นมากกว่า 100 รายการในปีนี้ จากเดิมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ประมาณ 40-50 รายการต่อปีเท่านั้น เช่น ตู้เย็น 4 ประตู ด้วยเทคโนโลยีไมนัสซีโร่คูลลิ่งรายแรกของโลก เครื่องซักผ้าระบบดีเทอร์เจนแม็กซิไมเซอร์ เครื่องปรับอากาศระบบแอร์เอ็กซ์เชนเจอร์ และระบบซูเปอร์นาโนไททาเนียมรายแรกของโลก โทรทัศน์พลาสม่าทีวี แอลซีดีทีวีด้วยเทคโนโลยี อลิส 8 เป็นต้น

สำหรับกลุ่มสินค้าแต่ละกลุ่มนั้นฮิตาชิ ตั้งเป้าไว้ดังนี้ 1. ตู้เย็นซึ่งเป็นตัวหลักของบริษัทฯ จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 18% จากปีที่แล้วมีแชร์ 14% จากตลาดรวมกว่า 1.2 ล้านยูนิตหรือประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งฮิตาชิเองถือว่าเป็นผู้นำในตลาด 2 ประตู โดยสัดส่วนรายได้เดิมตู้เย็นของบริษัทฯเดิมมาจาก ตู้เย็น 1 ประตู 80% และ 2 ประตู 20% ได้ปรับมาเป็น อย่างละ 50% เท่ากัน 2.เครื่องซักผ้า จะเพิ่มเป็น 16% จากปีที่แล้วมีแชร์ 14% จากตลาดรวม 9.7 แสนยูนิตหรือมูลค่า 8,000 ล้านบาท 3.เครื่องปรับอากาศ เพิ่มแชร์เป็น 7% จากปีที่แล้วมีแชร์ 6% จากมูลค่าตลารวม 16,000 ล้านบาท หรือปริมาณ 8 แสนยูนิต นอกจากนั้นก็ยังมีสินค้ากลุ่มอื่นอีกเช่น เครื่องดูดฝุ่น พัดลม หม้อหุงข้าว ทีวี เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดเครื่องปรับอากาศ คาดว่าภายใน 3 ปี ฮิตาชิน่าจะติดท็อปทรีได้ และมีแชร์ประมาณ 15% โดยปีที่แล้วมียอดขายแอร์ประมาณ 20,000 ยูนิต และปีนี้ตั้งเป้า 48,000 ยูนิต เพราะเพิ่งเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในปีนี้ สินค้าจะมีครบไลน์มากขึ้น

"บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับดีลเลอร์ในการทำตลาด ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 350 ราย ซึ่งสัดส่วนยอดขายหลักยังมาจากดีลเลอร์กว่า 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยเราได้มีการพัฒนาปรับปรุงดีลเลอร์ไปมากตั้งแต่ปีที่แล้ว เน้นการจัดวางสินค้าหน้าร้าน การตกแต่งร้านค้า การจัดทำโปรโมชั่นทั้งดีลเลอร์และคอนซูมเมอร์ การอบรมต่างๆ"

นายมาซาอากิ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้เผยแพร่หนังโฆษณาชุดใหม่ที่ใช้ทั้งภาคพื้นนี้ด้วยแคมเปญ Surprisingly Fresh ซึ่งไม่ได้ใช้ดาราเป็นพรีเซ็นตอร์ เพราะต้องการที่จะสื่อถึงคุณค่าและฟังก์ชั่นการใช้งานของตัวสินค้าเป็นหลัก แตกต่างจากเดิมในอดีตที่การโฆษณาในไทยใช้พรีเซ็นเตอร์คือ ป๊อป -อารียา อดีตนางสาวไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็เพื่อต้องการให้สินค้าและแบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นเป็นหลัก