ดีเอชแอล ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด เปิดตัวร้านสะดวกส่ง " DHL SERVICEPOINT"รับมือการแข่งขันในธุรกิจพัสดุส่งด่วน เพิ่มบริการให้เข้าถึงแหล่งลูกค้า เจาะกลุ่มเอสเอ็มอีและลูกค้าทั่วไปทั้งคนไทยและต่างชาติ ชูความแข็งแกร่งของแบรนด์การันตีลูกค้าเชื่อใจ ตั้งเป้าปีนี้เปิด 5 สาขา ก่อนกระจายออกต่างจังหวัดปีหน้า

นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเฮชแอล เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้บริการที่สะดวกและรวดเร็วกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้เปิดตัวรูปแบบบริการใหม่ร้านสะดวกส่ง " DHL SERVICEPOINT" แห่งแรกในประเทศไทยที่ ถนนสีลม ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีลูกค้าเป้าหมาย คือ 1.ลูกค้าทั่วไปทั้งคนไทย คนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย นักท่องเที่ยว 2.ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเอ็สเอ็มอี ที่ต้องการส่งพัสดุด่วนไปต่างประเทศทั่วโลก แบ่งสัดส่วนเป็นอย่างละ 50% โดยบริษัทจะสร้างการรับรู้ในบริการใหม่นี้ด้วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตามสื่อสิ่งพิมพ์ และ ซึ่งโฆษณาเอาท์ดอร์ เช่น ตามสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น

ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่า ร้านสะดวกส่ง ซึ่งเป็นบริการใหม่ของเรา จะสามารถเข้ามาเติมเต็มการนำเสนอบริการให้กับฐานลูกค้ารายย่อยที่กำลังเติบโต ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 5 สาขา โดยสาขาแรกคือที่ถนนสีลม สาขาที่สองจะอยู่ย่านถนนสุขุมวิท และอีก 3 สาขายังอยู่ระหว่างการหาทำเล ซึ่งโลเกชั่นจะต้องอยู่ย่านชุมชนและย่านธุรกิจเป็นหลัก นอกจากนั้นบริษัทยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจที่จะเปิดร้าน "สะดวกส่ง" ของดีเอชแอลเข้ามาคุยธุรกิจกับเราได้ และปีหน้าจะขยายสาขาออกไปต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว

"ในเอเชียเราเปิดร้านสะดวกส่งมาแล้ว 4 ประเทศ คือที่ อินเดีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ และทุกประเทศประสบความสำเร็จดี เพราะด้วยรูปแบบร้านที่ทันสมัยและเป็นบริการที่เข้าถึงชุมชน ทำให้ลูกค้าเกิดความสะดวกที่จะเข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะการเน้นบริการที่เข้าใจง่ายกับลูกค้ามีผลิตภัณฑ์ EXPRESS4YOU การกำหนดราคาค่าบริการเป็นโซนนิ่งตามกลุ่มประเทศ ซึ่งทำให้มีมาตรฐานของค่าบริการ ประกอบกับจุดแข็งคือแบรนด์ ดีเอชแอล ที่ลูกค้าเชื่อถือเรื่องความสะดวก ปลอดภัย ถึงมือผู้รับแน่นอน การเพิ่มบริการนี้จึงเหมือนเป็นการตอกย้ำแบรนด์ดีเอชแอล ได้อีกทางหนึ่งและยังช่วยขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้มีเพิ่มขึ้น"

ด้านผลประกอบการปีที่ผ่านมา มีเติบโตอยู่ในตัวเลข 2 หลัก และปีนี้บริษัทก็ตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิคที่ต้องการการจัดส่งที่รวดเร็ว เพื่อไม่ให้ตกกระแส ขณะเดียวกันสินค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ที่ต้องส่งสินค้าให้ลูกค้าในต่างประเทศ ที่ต้องอาศัยความรวดเร็วเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

สำหรับดีเอชแอลมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในธุรกิจบริการพัสดุส่งด่วนในประเทศไทย หรือมีสัดส่วนที่ 40% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่า ธุรกิจพัสดุด่วน ที่เปิดขึ้นครั้งนี้น่าจะมีกระแสตอบรับที่ดี และมีส่วนแบ่งอยู่ในรายได้รวมของบริษัทไม่น้อยกว่า 25-30% ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า