"โนเบิล" ได้ฤกษ์เปิดโครงการใหม่ผุดคอนโดมิเนียม 2 โครงการมูลค่า 1,035 ล้านบาท ตั้งเป้าทั้งปี เปิด 4 โครงการมูลค่า 3,600 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ตั้งเป้ารายได้ 2,700 ล้านบาท ระบุสินค้าในมือมูลค่า 7,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จกว่า 300 ยูนิต ยันไม่แบกต้นทุนแถมได้เปรียบคู่แข่งเหตุเป็นบ้านต้นทุนเดิม แจงมีต้นทุนการเงินเพียง 4.5% ในขณะที่หนี้สินต่อทุน 0.6 เท่า
นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองปัจจุบัน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเท่าใดนัก แต่หากมีการยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจรวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่างการพัฒนาและก้าวเดินไปข้างหน้า จึงไม่ควรมีอะไรมากระทบให้หยุดชะงัก
สำหรับปัจจัยลบจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเชื่อว่า จะไม่กระทบมากนัก เนื่องจากผู้บริโภครับรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังถือว่าไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับ 10 กว่าปีที่ผ่านมาที่มีอัตราดอกเบี้ยเป็นตัวเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภาคอสังหาฯ การก่อสร้างยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี
นายธงชัย บุศราพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ฯ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 15-20% โดยรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ 2,700 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,457 ล้านบาท กำไรสุทธิ 456 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดขาย 12 โครงการมูลค่า 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 3,500 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 3,500 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้รอรับรู้ที่ยกมาจากปีที่แล้วอีก 850 ล้านบาท
ในส่วนของสต๊อกบ้านเดี่ยวจำนวน 3,500 ล้านบาท คิดเป็น 300 กว่ายูนิต โดยเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย ซึ่งเป็นต้นทุนเดิม ทำให้บริษัทสามารถคงราคาขายเดิมเอาไว้ได้ ในขณะที่โครงการที่เปิดใหม่ จะเป็นบ้านต้นทุนใหม่ทั้งราคาที่ดินและค่าก่อสร้าง ดังนั้นบริษัทจึงถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ แม้ว่าจะเป็นการสร้างเสร็จก่อนขาย แต่บริษัทไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการแบกรับต้นทุนทางการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากต้นทุนการเงินอยู่ในระดับต่ำเฉลี่ย 4.5% ส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในอัตรา 0.6 เท่า
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่นั้นในปีนี้ตั้งเป้าเปิด 4 โครงการ มูลค่า 3,600 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการและบ้านเดี่ยว 1 โครงการ โดยล่าสุดเปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ภายใต้ชื่อ 1. โนเบิล แอมเบียนส์ ร่วมฤดี ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี บนเนื้อที่ 2 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 108 ยูนิต ตาราเมตรละ 75,000-85,000 บาท หรือราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท
2.โครงการ โนเบิล แอมเบียนส์ สารสิน คอนโดฯสูง 8 ชั้น รูปตัวยู บนเนื้อที่ 1.5 ไร่ จำนวน 79 ยูนิต ราคาขายตร.ม.ละ 90,000 บาท ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 395 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ทั้ง 2 โครงการเป็นคอนโดฯ โลว์ไรท์ เนื่องจากกฎผังเมืองในย่านนั้นห้าก่อสร้างตึกสูง ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในอีก 18 เดือนข้างหน้าและจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้
โดยในกลางปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวอีก 2 โครงการเป็นโครงการคอนโดฯ 1 โครงการและโครงการบ้านเดี่ยว ในซอยวัชรพล ซึ่งเป็นเฟสต่อเนื่องของโครงการโนเบิล จีโอ จำนวน 70 ยูนิต บนเนื้อที่เกือบ 30 ไร่
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทโนเบิล เปิดเผยว่า สำหรับโครงการหรู "คีรีมายา" เขาใหญ่ ของนายกิตติ ซึ่งภายในโครงการมีทั้งรีสอร์ทระดับ 5 ดาว และสนามกอล์ฟ ในปัจจุบันยังมีที่ดินเปล่าที่เหลืออยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งนายกิตติมีแผนที่จะนำพื้นที่บางส่วนมาจัดสรรมาจัดสรรที่ดินพร้อมบ้านเดี่ยวเพื่อขายราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโครงการ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าซื้อบ้านหลังที่สองเป็นหลัก
|