เจ้าตลาดผงซักฟอก“ยูนิลีเวอร์” ต้อนรับมือใหม่ “พีแอนด์จี” ปรับสินค้าเรือธง “บรีส” ในรอบ 4 ปี ดึงแคมเปญปรัชญาระดับโกลเบิ้ล “กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์” ธีมสร้างแบรนด์-ปรับบรรจุภัณฑ์และโลโก้ใหม่ หวังเป็นตราสินค้าที่มีความหมายกับผู้บริโภคมากกว่าเดินเกมสงครามราคา ส่วนสิ้นปีคอร์ปอเรตแชร์พุ่ง 1-2 % จากปัจจุบันมี 65.6% ด้านพีแอนด์จีเคลื่อนทัพเปิดตัวภาพยนตร์ “แฟ้บ เพอร์เฟค” กระตุ้นการจดจำตราสินค้าหยั่งเชิงก่อนรุกตลาดไตรมาสสอง

นายอภิชาติ ศาลิคุปต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้า บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผงซักฟอกบรีส โอโม เซิฟ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดบรีสในปีนี้บริษัทฯเน้นสร้างตราสินค้า ภายใต้แคมเปญปรัชญาระดับโกลเบิ้ล “กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์” ซึ่งเกิดขึ้นบนรากฐานความสำเร็จของโครงการ “บรีส เปิดโลกการเรียนรู้” ที่ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตลอด กระทั่งปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนกล้าคิด กล้าลงมือทำจริงโดยไม่กลัวความสกปรกเลอะเทอะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาการที่สมบูรณ์

สำหรับแผนการสร้างตราสินค้าภายใต้แคมเปญ “กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์” บริษัทฯได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแคมเปญปรัชญา พร้อมกันนี้ยังได้ปรับโลโก้ตราสินค้าใหม่จากเดิมเป็นรูปดาวกระจายสู่รูปคราบเลอะที่มีสีสัน โดยการปรับในครั้งนี้เป็นการปรับระดับโกลเบิ้ลและเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีในประเทศไทยที่มีการปรับเปลี่ยน ทั้งนี้เพราะเป้าหมายของบริษัทฯต้องการให้ตราสินค้าเป็นตัวทำตลาดเอง ขณะที่กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์จะเป็นแฟลกชิพ ทั้งนี้เพื่อให้ตราสินค้ามีความหมายกับผู้บริโภคโดยเข้าไปนั่งอยู่ในใจและมีแบรนด์ลอยัลตี้ ซึ่งจะทำให้บรีสมีตราสินค้าที่มีความแข็งแกร่ง

การสร้างแบรนด์และปรับเปลี่ยนโลโก้ จะทำควบคู่กับแคมเปญกล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์ในธีมเดียวกันหมด ควบคู่กับการทำตลาด 360 องศา ไม่ว่าจะเป็น การออกนวัตกรรมใหม่ลงสู่ตลาด การสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้า และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้ากับผู้บริโภค ล่าสุดสานต่อแคมเปญส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนทุ่มงบ 200 ล้านบาท เปิดฟอรั่ม “เลี้ยงลูกให้ เก่ง ต้องมีเพลย์ คิว” หรือฉลาดทางการเล่น พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุด “เล่นเลอะ เรียนรู้” เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯได้วางเป้าหมายว่าโลโก้ใหม่ผู้บริโภคจะสามารถจดจดได้ภายใน 1 ปี

แนวโน้มการแข่งขันตลาดผงซักฟอกปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะสงครามราคา นอกจากนี้ปีนี้ยังมีคู่แข่งอย่างค่ายพีแอนด์จี ซื้อกิจการหลังจากได้ตกลงซื้อตราสินค้า 4 แบรนด์จาก บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ สองในสี่แบรนด์นั้นก็คือ ผงซักฟอกแฟ้บ และผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ “เพค” ล่าสุดพีแอนด์จีเคลื่อนไหวโดยประเดิมตอกย้ำตราสินค้าให้เป็นที่จดจำ ก่อนที่จะเริ่มทำตลาดกลุ่มผงซักฟอกในไตรมาสสองของปีนี้ ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “แฟ้บ เพอร์เฟค” ผงซักฟอกสูตรเข้มข้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยในตลาดนี้บรีสเอกเซลเป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่ง 23.2%

สภาพตลาดผงซักฟอกมูลค่า 11,120 ล้านบาท ปีนี้ในเชิงมูลค่ามีอัตราการเติบโต 17% ส่วนเชิงปริมาณ 188,864 ตัน โต 8% โดยตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นสัดส่วน 41.4% หรือคิดเป็นมูลค่า 4,550 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 39.3% และคาดว่าอีก 1 ปี ตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นจะกลายเป็นตลาดใหญ่แทนที่ตลาดผงซักฟอกสูตรมาตรฐานซึ่งมีสัดส่วน 50.8% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,560 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตลดลงเหลือเพียง 4.6% เนื่องจากผู้บริโภคไทยหันมาซักด้วยเครื่องซักผ้ามากขึ้น ขณะที่ตลาดน้ำยาซักผ้าสัดส่วน 7.8% หรือคิดเป็นมูลค่า 880 ล้านบาท เติบโต 13.5%

ทั้งนี้ในสิ้นปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายกลุ่มผงซักฟอก ประกอบด้วย 3 แบรนด์ บรีส โอโม และเซิฟ จะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1-2% จากในปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งโดยรวมในเชิงมูลค่าคิดเป็น 64.3% แบ่งเป็น บรีส 46% โอโม 18% และเซิฟ 0.3% โดยส่วนแบ่งรวมรอบล่าสุดเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 65.6% แบ่งเป็น โอโม 18% เซิฟ 0.3% และบรีส 47.3% ประกอบด้วย บรีส เอกเซล 23.1% บรีสคัลเลอร์ 10.9% บรีสเพาเวอร์ 9.9%บรีสเอกเซลโกลด์ 2.2% บรีสเมติก 0.8% และบรีสเอกเซลลิควิด 0.5%