|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ เตรียมส่งหลอดไฟระบบ LED ลงตลาดคอนซูเมอร์ ล่าสุดเริ่มล้อนท์ตลาดในกลุ่มไฟประดับไปบ้างแล้ว คาดไม่เกินปีหน้าจะวางจำหน่ายในไทย ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้าน ส่งแคมเปญใหญ่แห่งปี “เชียร์สนั่นลั่นบอลโลก ลุ้นโชคกับหลอดไฟฟิลิปส์”
นายธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปส่วนกิจการไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯได้พัฒนาหลอดไฟให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้คิดค้นระบบ LED เทคโนโลยีซิลิกอน นำมาใช้ในการให้แสงสว่างแทนหลอดไฟในปัจจุบัน โดยในต่างประเทศแถบยุโรปก็เริ่มหันมาใช้ไปบ้างแล้ว
สำหรับประเทศไทยนั้น ขณะนี้ก็เริ่มมีใช้กันบางส่วน เช่น ในส่วนของตลาดโปรเฟสเซอร์นัล และในกลุ่มไฟประดับ ส่วนการจำหน่ายในกลุ่มตลาดคอนซูเมอร์นั้น คาดว่าไม่ 1 ปี จึงจะเริ่มจำหน่ายอย่างจริงจัง
ทั้งนี้บริษัทฯได้เข้าไปซื้อบริษัท ลูมิเล็ด จากประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่ากว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่คิดค้นระบบ LED โดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้การพัฒนาหลอดไฟระบบLED มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาฟิลิปส์มียอดรายได้จากกลุ่มหลอดไฟฟ้าทั้งหมดกว่า 50% ของตลาดโดยรวมที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะยังคงรักษาแชร์ไว้ได้ ด้วยการทำการตลาดอย่างจริงจัง
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขาย เชียร์สนั่นลั่นบอลโลก ลุ้นโชคกับหลอดไฟฟิลิปส์ ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ณ ประเทศเยอรมนี ที่จะมีขึ้นระหว่างเดือนมีนาคา ถึงเดือน กรกฎาคม 2549 นี้
โดยผู้บริโภคที่ซื้อหลอดไฟฟิลิปส์ทั้งหลอดประหยัดไฟทุกรุ่น ทุกขนาดวัตต์ และหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั้งแบบชนิดหลอดตรงและหลอดกลม ทุกรุ่น ทุกขนาดวัตต์ ตัดชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ส่งมาชิงโชคลุ้นแพ็กเก็จทัวร์บอลโลก 11 รางวัล ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 มีนาคม 2549
แคมเปญดังกล่าวใช้งบทางการตลาดไปกว่า 20 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้ยอดจำหน่ายระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม โตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 15-20 % หรือช่วยให้ยอดจำหน่ายทั้งปีโตขึ้น 4-5 %
สำหรับมูลค่าของตลาดที่มีกว่า 5,000 ล้านบาทนั้น มาจาก หลอดประหยัด 30 % หลอดไส้ 5-10 % ที่เหลือจะเป็นหลอดฟลูออเรสเซนท์ 60 %
แนวโน้มในอนาคตสัดส่วนของการใช้หลอดประหยัดจะเพิ่มขึ้น แทนที่หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่จะเริ่มลดลง เนื่องจากภาวะที่คนไทยหันมารัดเข็มขัดกันมากขึ้น ที่มีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันแพง ค่าใช้จ่ายต่างๆจึงต้องลดลง ทำให้หลอดประหยัดเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนได้ ถึงแม้ว่าราคาของหลอดประหยัดนั้นจะสูงกว่าหลอดไฟประเภทอื่นบ้างก็ตาม
“ภาพรวมของธุรกิจยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าโครงการเมกะโปรเจ็กจะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่ก็มีบางโปรเจ็กที่เริ่มอนุมัติกันไปบ้างแล้ว ดังนั้นคาดว่าตลาดใน 1-2 ปีข้างหน้าอาจจะหดตัวลงแทน”
|
|
|
|
|