Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มีนาคม 2549
ธอส.ปล่อยกู้สลัมดบ.4%อัด3หมื่นล.2แสนชุมชน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขรรค์ ประจวบเหมาะ
Loan




ธอส. ปล่อยสินเชื่อระดับรากหญ้าในโครงการบ้านมั่นคง ประเดิม 25 ชุมชนมูลค่า 200 ล้านบาท เน้นปล่อยผ่านสหกรณ์ชุมชนเพื่อเป็นหลักประกันดูแลลูกหนี้ พร้อมรอประเมินผล 6 เดือนหากไม่มีปัญหาหนี้เสียเดินหน้าโครงการเต็มสูบ ตั้งเป้าภายใน 4 ปี 200,000 กว่า ยูนิต มูลค่า 30,000 ล้านบาท

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามอัตภาพ โดยล่าสุดได้เดินหน้าไปสู่การช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้า หรือผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัด ให้ได้มีโอกาสพัฒนาและปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารจะสนับสนุนสินเชื่อด้วยการรับรีไฟแนนซ์หนี้(Re-finance)โครงการที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้ช่วยพัฒนา ซึ่งได้ให้สินเชื่อไปแล้ว จำนวน 25 โครงการ เป็นจำนวนเงินประมาณ 200 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 4% ต่อปี ระยะเวลา 15 ปี ซึ่ง พอช. ได้รับเงินอุดหนุนดอกเบี้ยจากรัฐบาลจำนวน 2% ต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 2% ผู้อยู่อาศัยจะเป็นผู้จ่าย ส่วนอัตราการผ่อนชำระบ้านแฝด 2 ชั้น วงเงิน 170,000 บาท ผ่อน 940 บาท/เดือน, บ้านแถว 2 ชั้น 130,000 บาท ผ่อน 725 บาท/เดือน และบ้านแฝด 4 ชั้น 1150,000 บาท ผ่อน 640 บาท/เดือน ในส่วนของค่าเช่าที่ดินนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ

สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการบ้านมั่นคง เป็นการให้สินเชื่อแก่องค์กรชุมชนที่เป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคล และเป็นโครงการที่มีการพัฒนาอยู่ในระดับที่มั่นคง หรือเป็นโครงการที่ใช้สินเชื่อจากพอช.แล้ว โดยมีการผ่อนชำระที่ผ่านมากับพอช.สม่ำเสมอไม่มีงวดค้างชำระ และเป็นโครงการที่มีหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์ในโครงการ สิทธิการเช่าที่ดิน และบุคคลค้ำประกัน ซึ่งอาจเป็นคณะกรรมการ หรือสมาชิกของกลุ่ม/สหกรณ์ และเป็นโครงการที่ชุมชนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยในกรณีการเช่าที่ดินจะต้องได้รับสิทธิการเช่าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าระยะเวลาการใช้สินเชื่อ โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยให้สอดคล้องใกล้เคียงกับการให้สินเชื่อของพอช. แต่หากมีการผิดนัดชำระ จะคิดเท่าอัตราลูกค้าทั่วไป

นายขรรค์กล่าวว่า ในเบื้องต้นธอส.จะใช้กับโครงการนำร่องโดยปล่อยสินเชื่อให้แก่ชุมชน 25 โครงการมูลค่า 200 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นจะรอประเมินผลโครงการ ทั้งในส่วนของการชำระหนี้ และปัญหาต่างๆ หากไม่มีผลเสียจะดำเนินการปล่อยต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าภายใน 4 ปี ปล่อย 200,000 ยูนิต มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ส่วนเม็ดเงินนั้นจะต้องมาพิจารณากันอีกครั้งว่าจะดึงมาจากส่วนใด

“ ในส่วนของภาวะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ที่ธอส.ได้ปรับขึ้นมาแล้ว 0.75% หากธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศปรับขึ้นอีก ธอส.ก็จะต้องปรับขึ้นตาม หรือไม่ต้องรอดูธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นว่ามีท่าทีอย่างไร แต่เชื่อว่าในช่วงต่อจากนี้ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอีกประมาณ 2 ครั้งหรือประมาณ 0.50% ซึ่งเมื่อรวมทั้งปีคาดว่าจะไม่เกิน 1.25%”

นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ผู้อำนวยการพอช. กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มอบหมายให้ พอช. ดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนแออัด ตามโครงการ “บ้านมั่นคง” เพื่อแก้ปัญหาและสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยแก่คนจนในชุมชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2546-2551 ทั่วประเทศ จำนวน 2,000 ชุมชน รวม 300,000 ครัวเรือน ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการอนุมัติงบประมาณนำร่องในการดำเนินโครงการดังกล่าว ตั้งแต่ปี2546จำนวน10 ชุมชน 1,525 ครัวเรือน และปี 2547 จำนวน 15,000 ครัวเรือน ปัจจุบัน ณ กุมภาพันธ์ 2549 ได้ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 59,800 ครัวเรือน

ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมลงนามในครั้งนี้ ธอส.และพอช. ได้มาเยี่ยมชมโครงการ “ชุมชนร่วมสามัคคี” ซอยรามคำแหง 39 ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่ประสบความสำเร็จ ที่ พอช. ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย ที่อพยพมาจากต่างถิ่น และได้อาศัยในที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มากกว่า 20 ปี จนประสบความสำเร็จในการการรวมกลุ่มและบริหารงานผ่านคณะกรรมการสหกรณ์เคหะสถานชุมชนร่วมสามัคคี จำกัด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us