|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ด "ที.เค.เอส. เทคโนโลยี" อนุมัติเพิ่มทุนบริษัทย่อยเป็น 200 ล้านบาท จากเดิม 60 ล้านบาท เรียกชำระล็อตแรก 40 ล้านบาท หวังนำเงินไปสมทบก่อสร้างโรงพิมพ์ที่ต้องใช้ทุนกว่า 350 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจการพิมพ์ที่โตต่อเนื่องและรับอานิสงส์จากการเลือกตั้ง พร้อมเลื่อนแผนนำบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด เข้าตลาดหุ้น เหตุการเมืองไม่นิ่ง ระบุการเมื่องยืดเยื้อฉุดจีดีพีลง 0.50%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2549 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนในบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด บริษัทย่อยที่ TKS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 100% จากเดิม 60 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท โดยเรียกชำระก่อน 40 ล้านบาท ภายในเดือนเมษายน 2549 วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน เพื่อใช้ในการลงทุนและหมุนเวียนธุรกิจ
พร้อมกันนี้ ยังอนุมติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานสำหรับปี 2548 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท สำหรับหุ้นสามัญที่ออกทั้งสิ้น 248,073,200 หุ้น และการจัดสรรเป็นสำรองตามกฎหมายจำนวนเงิน 3,578,053.99 บาท ทั้งนี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2549
โดยบริษัทกำหนดปิดสมุดลงทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 และสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 4 เมษายน 2549 และประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 วันที่ 17 เมษายน 2549
นายสุพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมถึง เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในการก่อสร้างโรงพิมพ์ ที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งหมด 350 บาท และคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2549 นี้ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจการพิมพ์ขยายตัวขึ้นประมาณ 30% จากสิ้นปี 2548 ที่มีรายได้จากธุรกิจการพิมพ์ 900 ล้านบาท
"ภาพรวมธุรกิจการพิมพ์ในปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้รับอานิสงค์จากการเลือกตั้ง โดยคาดว่าตลาดธุรกิจการพิมพ์จะขยายตัวได้ประมาณ 5-10% เพราะนอกจากการเลือกตั้งแล้ว ในปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการจัดเทศกาลฟุตบอลโลก และงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีด้วย"
สำหรับความคืบหน้าแผนการนำบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั้น นายสุพันธุ์ กล่าวว่า บริษัทจะเลื่อนกำหนดจากเดิมที่คาดว่าจะนำเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 3 ปีนี้ เป็นปี 2550 เนื่องจากมองว่าภาวะของตลาดในขณะนี้ยังไม่เอื้ออำนวย ขณะที่รายได้ที่จะเข้ามาอาจจะยังไม่มากนัก เนื่องจากเริ่มเปิดดำเนินงานได้ 2 เดือนหลังจากที่มีการเพิ่มทุนแล้ว ส่วนบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2 ปีนี้
"ผมมองว่าสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่นอยู่ ในระยะสั้นหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนรุนแรง คาดว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่หากยืดเยื้อเกิน 2 เดือน อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของอัตราการเติบโตของประเทศที่จะทำให้จีดีพี เติบโตลดลง 0.5% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 4-4.5%"
ส่วนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2549 นี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตจากปี 2548 ที่มีรายได้ 9.98 พันล้านบาท ประมาณ 12-15% เนื่องจากธุรกิจการพิมพ์ยังมีอัตราเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจะเติบโตจากปี 2548 ประมาณ 15-20% จากที่ปี 2548 มีกำไรสุทธิรวม 71 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 32%
"ไตรมาสแรกปีนี้ ผมมั่นใจว่ารายได้จะดีกว่าไตรมาสแรกของปี 2548 แน่นอน เนื่องจากบริษัทมีงานในส่วนของการพิมพ์เสริมเข้ามาจึงทำให้รายได้เพิ่มขึ้น" นายสุพันธุ์ กล่าว
|
|
|
|
|