Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มีนาคม 2549
ลีเวอร์ทุ่ม4.5พันล.ลุย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิลีเวอร์

   
search resources

ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, บจก.
Commercial and business
Marketing




“ยูนิลีเวอร์”ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค ชี้สถานการณ์การเมืองไทยไม่กระทบตลาดอุปโภคบริโภค เดินหน้าทุ่มงบ 4,500 ล้านบาท ตอกย้ำพันธกิจ”เติมพลังให้ชีวิต” ปั้น 2 ดาวรุ่ง”อาหาร-สกินแคร์”ลุยหลังพบตลาดยังโต อัดนวัตกรรมปลุกตลาดอิ่มตัว สิ้นปีโต 8-10% เพิ่มจากปีที่ผ่านมากวาดรายได้ 3 หมื่นล้านบาท

นายลออิศ ทาร์ดี้ ประธาน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยในฐานะก้าวขึ้นเป็นประธานคนใหม่ในประเทศไทยว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองไทยที่ยังไม่มีความชัดเจน รวมทั้งปัจจัยลบด้านราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น แต่ปีนี้ยูนิลีเวอร์ยังคงวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 8-10% จากในปีที่ผ่านมาโต 8% มีรายได้ 30,000 ล้านบาท ภายใต้การทุ่มงบการตลาด 15% ของรายได้รวม หรือคิดเป็น 4,500 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำพันธกิจ ”เติมพลังให้ชีวิต” ที่จะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุกริจ

“เราดำเนินธุรกิจในไทยปีนี้เป็นปีที่ 73 แล้ว ผมเชื่อว่าปัญหาการเมืองไทยไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และเรายังคงเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยว่าสามารถเติบโตได้ อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการใหญ่หรือโครงการเมกกะโปรเจกต์ รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์อาจจะมีการชะลอตัวลงบ้าง ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก รวมทั้งไม่มีผลทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใช้สินค้าขนาดเล็กลง”

สภาพตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 6% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ดี แม้ว่าสินค้าจะปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่เป็นเพราะผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยเปลี่ยนไป หันมาซื้อสินค้าที่จำเป็นในชีวิตมากกว่าการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้นทำให้บริษัทมั่นใจศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งปีนี้ได้เตรียมลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของโรงงาน จากปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าในภูมิภาคเอเชีย โดยมีสัดส่วนรายได้ส่งออกคิดเป็น 10% ของ 30,000 ล้านบาท ขณะที่ด้านกำลังผลิตขณะนี้ใช้ไปแล้ว 85%

สำหรับแนวทางการตลาดปีนี้หัวใจสำคัญ คือ การเพิ่มคุณค่าและนวัตกรรมใหม่ให้กับ 12 แคธิกอรี่ ซึ่งปีนี้บริษัทเน้นทำตลาดในเชิงรุก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหาร เนื่องจากคาดการณ์ว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดี จากตัวเลขปีที่ผ่านมาโต 2 เท่า เพราะสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีเวลาทำอาหารเอง โดยยูนิลีเวอร์จะเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่จะสนองความต้องการและวิถีชีวิตทันสมัย เช่น มีคุณค่าทางโภชนาการ มีน้ำตาลน้อย ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายให้กลุ่มอาหารมีความแข็งแกร่งในอนาคต จากปัจจุบันในกลุ่มอาหารยูนิลีเวอร์ มีสินค้าภายใต้แบรนด์เบสท์ฟู้ดส์ โดยกลุ่มน้ำสลัดครองส่วนแบ่ง 45% ไอศกรีมวอลล์ 50%ฯลฯ

ส่วนกลุ่มที่สอง “สกินแคร์” หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์พอนดส์ ซิตร้า วาสลีน ซึ่งปัจจุบันในกลุ่มสกินแคร์มีส่วนแบ่ง 50% เป็นผู้นำตลาด ทั้งนี้การที่บริษัทเน้นทำตลาดสกินแคร์ในเชิงรุก เนื่องจากสภาพตลาดยังคงมีอัตราการเติบโตสูง โดยพบว่าในเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่นใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 22 ชิ้นลงบนใบหน้า ด้านการทำตลาดแคธิกอรี่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล ได้แก่ ยาสีฟัน แชมพู สบู่ ฯลฯ แม้ว่าปีนี้สภาพตลาดมีอัตราการเติบโตน้อย แต่บริษัทจะเน้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ออกมากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้เราเน้นการบริหารต้นทุนการผลิต โดยเน้นลดครอสสายการผลิต และกระบวนการทำงาน ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนไม่ให้กินเนื้อตัวเอง เพื่อไม่ให้กำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นายทาร์ดี้ กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่ง 40% ในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค 12 แคธิกอรี่ มี 10 แคธิกอรี่ขึ้นเป็นผู้นำตลาด เช่น แชมพู 3 แบรนด์ ซันซิล โดฟ คลีนิคเคลียร์ มีส่วนแบ่ง 52% ผงซักฟอกบรีส โอโม 65% น้ำยาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท 30% สบู่ลักส์ 35% น้ำยาล้างจานซันไลต์ 65% ฯลฯ ส่วนอีกสองแคธิกอรี่ที่ยังไม่สามารถเป็นผู้นำตลาดได้ ได้แก่ ยาสีฟันใกล้ชิดมีส่วนแบ่ง 10% และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเรโซน่า และแอ็กซ์มีส่วนแบ่ง 20% ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนและทันตผลิตภัณฑ์เติบโต 10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us