การบินไทยจับมือ ททท. ออกโครงการ Visit Thailand กระตุ้นท่องเที่ยว เน้น 3 ตลาดหลัก ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน หลังเหตการณ์สึนามิพัดนักท่องเที่ยวหายวูบ ททท.ควัก 15 ล้าน เร่งโปรโมตใน 16 สายการบินสมาชิก สตาร์ อัลไลแอนซ์ ตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวโต 20% ด้านบอสใหญ่ทีจีเผย การเมืองยังไม่กระทบท่องเที่ยว แต่ก็เร่งออกแคมเปญอีกหลายโครงการ หวังดึงคนไทยคืนถิ่น ร่วมลงนามถวายพระพร

นายสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบริษัท ปฎิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการ “Star Alliance Visit Thailand Campaign 2005/2006” โดย โครงการนี้ได้ถูกริเริ่มจากกลุ่มพันธมิตรการบิน สตาร์อัลไลแอนซ์ เพื่อต้องการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว ประเดิมจัดแคมเปญนี้ครั้งแรกที่ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อโครงการ “Visit Japan” ในปี 2547/2548

จุดประสงค์หลักของแคมเปญดังกล่าว เพราะการบินไทย และ ททท. ต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน เพื่อเร่งให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เหมือนเมื่อก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิ โดยเฉพาะใน 3 ตลาดหลัก ที่จำนวนนักท่องเที่ยวหายไปอย่างชัดเจน ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี และเยอรมัน

**เร่งออกแคมเปญดึงคนไทยคืนถิ่น**

ทั้งนี้ กลุ่ม สตาร์อัลไลแอนซ์ มีสมาชิกสายการบินทั้งหมด 16 สายการบิน มีเส้นทางบินครอบคลุม 139 ประเทศทั่วโลกบินสู่สนามบิน 795 สนามบินทั่วโลก โดยในเดือนเมษายนศกนี้ จะมีสมาชิกเพิ่มอีก 2 สายการบิน คือ สายการบิน สวิสแอร์ และ สายการบิน เซาท์แอฟริกาเหนือ โดยในที่นี้มี 8 สายการบิน ที่บินเข้ามาที่ประเทศไทย ได้แก่ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ,สายการบิน ลุฟท์ฮันซ่า, สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ,สายการบินสแกนดิเนเวีย แอร์ไลน์ส , สายการบิน ออสเตรียน แอร์ไลน์ส , เอเชียน่า แอร์ไลน์ส และ ออลนิปปอนแอร์เวย์ และในเดือนเมษายน จะมีเพิ่มอีก 1 สายการบิน คือ สวิส แอร์

โดยสายการบินทั้ง 8 สาย ที่กล่าวมา จะมีเที่ยวบินเข้าไทยรวม 1,800 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และมีเที่ยวบินไปยังภูเก็ต 170 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยในปี 2548 ทั้ง 8 สายการบิน ขนผู้โดยสารเข้าประเทศไทยได้ประมาณ 5 ล้านคน โดยในปีนี้ เมื่อการบินไทยได้เปิดตัวโครงการ Visit Thailand คาดว่าจะทำให้ยอดการขนผู้โดยสารเข้าประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอีกราว 20% หรือขนผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน

“เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการ ไทยแลนด์ แกรนด์ อินวิเทชั่น ของ ททท. ปีนี้ การบินไทย จะมีอีกหลายแคมเปญทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ในเกือบทุกเส้นทางการบินของการบินไทย เพราะส่วนหนึ่งต้องการเชิญชวนให้คนไทยในต่างแดนเข้ามาร่วมลงนามถวายพระพรให้กับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ล่าสุดเตรียมออกโครงการ Home Coming ในเส้นทางกรุงเทพ-อเมริกา และแพกเกจ พิเศษ ในประเทศอื่นๆอีก”

นายสมใจนึก กล่าวทิ้งท้ายว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ในภาพรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการยกเลิกการจอง แต่ก็ต้องการให้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพราะปีนี้ถือเป็นปีพิเศษเป็นปีเฉลิมฉลองให้กับพระมหากษัตริย์ของไทย จึงต้องการให้คนไทยในต่างประเทศเดินทางเข้ามาร่วมแสดงความยินดี พร้อมร่วมลงนาม ซึ่งการบินไทยจะเตรียมสมุดลงนามไว้ให้ ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศบริษัทก็จะมีการร่วมกับ ททท. ออกแคมเปญ กระตุ้นตลอดทั้งปี เช่นกัน

**ททท.ทุ่ม 15 ล้านโปรโมตแคมเปญ**

นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ใช้เงินสนับสนุน โครงการนี้ 15 ล้านบาท เพื่อใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ระยะเวลาเริ่มโครงการ ตั้งแต่ ตุลาคม 48 – กันยายน 49 โดยที่ผ่านมาได้มีการตีพิมพ์โฆษณาแคมเปญนี้ในวารสาร และ โฆษณาผ่านเว็บไซต์ ของสายการบินทั้ง 16 สาย ที่เป็นสมาชิก นอกจากนั้น ตั้งแต่เดือน มกราคม-เมษายน 49 จะมีการฉายวิดีโอส่งเสริมให้มาเที่ยวประเทศไทย ใน 16 สายการบินด้วย

สำหรับแคมเปญนี้ กลุ่มพันธมิตรการบิน สตาร์ อัลไลแอนซ์ ได้จัด Star Alliance Thailand Airpass ซึ่งเป็นบัตรโดยสารราคาพิเศษ เชื่อมต่อเส้นทางการบินระหว่างประเทศของสายการบินพันธมิตรเข้ามาเชื่อมต่อจุดบินต่างๆของการบินไทยภายในประเทศไทย เพื่อเป็นการโปรโมทจุดท่องเที่ยวในภูมิภาค ในราคา 149 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งตรงนี้ จะช่วยให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ได้เดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในประเทศได้ในราคาประหยัด ตรงนี้ ททท.จะมีการจับมือกับโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มอบส่วนลดที่พักให้ด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมาจะช่วย เพิ่มวันพักของนักท่องเที่ยว และกระจายนักท่องเที่ยวลงพื้นที่ต่างๆได้หลากหลายมากขึ้น ในส่วนของบัตร วีซ่า ได้จัดทำ Visa Discout Booklet ซึ่งจะให้สิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่า ตลอดจนส่วนลดร้านค้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายสินค้า

อย่างไรก็ตาม เฉพาะใน 3 ตลาดหลักคือ ญี่ปุ่น เกาหลี และเยอรมัน จากการจัดแคมเปญนี้ ก็คาดว่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวใน 3 ประเทศดังกล่าวได้ 20% คือ จากจำนวน 1,194,916 คน เพิ่มอีก 238,983 คน ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 955.93 ล้านบาท